Heatmap ตัวช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า บนเว็บไซต์คุณ

Heat Map เป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ โดยนำข้อมูลเชิงพฤติกรรมมานำเสนอในรูปแบบแผนที่ความร้อน (Heat Map) ที่แสดงผลเป็นสีต่างๆ เพื่อบอกระดับปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ ยิ่งมีการใช้งานมาก สีจะร้อนขึ้น เช่น สีแดง แต่หากมีการใช้งานน้อย สีจะเย็นลง เช่น สีน้ำเงิน

Heat Map ถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้ให้ความสนใจกับเนื้อหาส่วนใดมากที่สุด คลิกที่ปุ่มใดบ่อยที่สุด หรือมีพฤติกรรมการเลื่อนหน้าจอถึงจุดใดของเว็บไซต์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถปรับปรุง UX/UI ของเว็บไซต์ให้เหมาะสมมากขึ้น ตลอดจนสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเชิงธุรกิจและวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลต่างๆที่ Heat Map จำเป็นต้องใช้

1. ข้อมูลประชากรศาสตร์ (Demographic Data)

ข้อมูลประชากร เช่น  เพศ อายุ อาชีพ รายได้ และสถานภาพการสมรส ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายแต่ละช่วงวัยและแต่ละอาชีพ ตัวอย่างเช่น หากกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนวัยทำงาน อาจต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะกับคนวัยทำงาน เป็นต้น

2. ข้อมูลสถานที่สำคัญ (Landmark Data)

เป็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม ฟิตเนส และอื่นๆ ใช้ในการวิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใดและมีพฤติกรรมการเข้าถึงเว็บไซต์อย่างไร เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำโฆษณาเฉพาะกลุ่มหรือระบุตำแหน่งที่ควรเปิดสาขาใหม่

3. ข้อมูลลูกค้า (Customer Data)

ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เช่น หน้าเพจที่เข้าชม เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์ และอัตราการคลิก ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลประชากรศาสตร์และสถานที่สำคัญเพื่อให้เข้าใจลูกค้าได้อย่างแม่นยำ

Heat Map มีประโยชน์อย่างไรบ้าง 

ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน

ทำให้รู้ว่าผู้ใช้งานสนใจเนื้อหาอะไรมากที่สุด วิเคราะห์ว่าผู้ใช้คลิกที่ปุ่ม Call to Action หรือส่วนสำคัญของหน้าเว็บไซต์คุณหรือไม่ ตรวจสอบว่ามีจุดที่ทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนหรือไม่ เช่น คลิกตรงรูปภาพที่ไม่มีลิงก์ คลิกที่ข้อความที่ไม่มีลิงก์ เป็นต้น

นำข้อมูลมาปรับปรุง UX/UI ของเว็บไซต์

หากพบว่าผู้ใช้เลื่อนหน้าจอไปไม่ถึงเนื้อหาสำคัญ อาจต้องปรับตำแหน่งของเนื้อหาหรือออกแบบให้ดึงดูดมากขึ้น หากปุ่มสำคัญมีอัตราการคลิกต่ำ อาจต้องเปลี่ยนสี ขนาด หรือข้อความของปุ่ม สามารถทดสอบ A/B Testing เพื่อดูว่าองค์ประกอบแบบใดมีประสิทธิภาพดีที่สุด

นำเสนอข้อมูลเชิงภาพได้อย่างเข้าใจง่าย

Heat Map แสดงข้อมูลเป็นสี ทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าตัวเลขดิบ ช่วยให้ทีมพัฒนาเว็บไซต์และผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

ช่วยในการทำ SEO และปรับกลยุทธ์ทางการตลาด

หากพบว่าผู้ใช้ไม่โฟกัสกับคีย์เวิร์ดสำคัญ อาจต้องปรับโครงสร้างเนื้อหาใหม่ สามารถใช้ข้อมูลในการออกแบบหน้า Landing Page ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้ ส่งเสริมการทำโฆษณาแบบ Retargeting ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Heat Map 3 ประเภท ที่คุณต้องรู้จัก

1. Scroll Maps

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเลื่อนหน้าจอของผู้ใช้ว่าหยุดอ่านที่ตำแหน่งใด หากพบว่าผู้ใช้ไม่เลื่อนลงถึงจุดสำคัญ อาจต้องปรับโครงสร้างเว็บไซต์หรือทำให้เนื้อหาน่าสนใจขึ้น

2. Move Maps

ติดตามการเคลื่อนไหวของเมาส์เพื่อดูว่าส่วนใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความสนใจ เหมาะสำหรับวิเคราะห์หน้าเว็บที่ต้องการดึงดูดสายตาผู้ใช้ เช่น หน้า Landing Page หรือ E-commerce

3. Click Maps

แสดงข้อมูลว่าผู้ใช้คลิกที่ตำแหน่งใดมากที่สุด ใช้เพื่อตรวจสอบว่าองค์ประกอบใดของหน้าเว็บที่อาจทำให้เกิดความสับสน เช่น มีการคลิกที่รูปภาพที่ไม่มีลิงก์

ความหมายของสีต่างๆใน Heat Map

• สีแดง มีการใช้งานสูงสุด แสดงถึงพื้นที่ที่ได้รับความสนใจมาก
• สีส้ม มีการใช้งานมาก แสดงถึงพื้นที่ที่มีความสำคัญรองลงมา
• สีเหลือง มีการใช้งานปานกลาง อาจต้องพิจารณาปรับปรุงให้ดึงดูดมากขึ้น
• สีเขียว มีการใช้งานน้อย แสดงถึงพื้นที่ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ
• สีน้ำเงิน มีการใช้งานต่ำมาก ควรตรวจสอบว่าควรมีการปรับปรุงหรือไม่

3 เครื่องมือ Heat Map ที่แนะนำให้ใช้

1. Hotjar

มีฟังก์ชัน Heat Map ครบถ้วน รวมถึงฟีเจอร์ Recording ที่บันทึกพฤติกรรมผู้ใช้แบบเรียลไทม์ มีเครื่องมือสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้ที่เข้ามาใช้งานหน้าเว็บไซต์ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบครันตอบโจทย์การใช้งานอย่างมาก

2. Ptengine

สามารถเปรียบเทียบผล Heat Map สองเวอร์ชันเพื่อดูว่าหน้าเว็บแบบใดมีประสิทธิภาพมากกว่า มีการทดลองใช้งานฟรี แต่ฟีเจอร์อาจจำกัด หากต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น สมัครแพ็กเกจไปเลยจะคุ้มที่สุด

3. Google Analytics Heat Map

ใช้งานผ่าน Extension บน Chrome แสดงผลเป็นตัวเลขและกราฟสถิติได้ค่อนข้างละเอียด และสะดวกต่อการใช้งานด้วย เนื่องจาก Google ออกแบบมาให้คุณสามารถใช้ส่วนเสริมได้ง่ายไม่ซับซ้อน

บทสรุป

Heat Map เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ สามารถนำข้อมูลไปปรับปรุง UX/UI และพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เว็บไซต์มีคุณภาพดีขึ้นในเชิง SEO ซึ่งเพิ่มโอกาสในการติดอันดับแรก ๆ ของผลการค้นหาได้

สำหรับใครที่ต้องการใช้ Heat Map ให้ได้ผลมากที่สุด การมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาวางแผนการตลาดให้กับธุรกิจของคุณ ติดต่อเข้ามาปรึกษากับทาง AsiaSearch Solutions บริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่ รับทำการตลาดออนไลน์ ครบวงจร ให้บริการ แบบ Full-Service อย่างมีประสิทธิภาพ สอบถามเพิ่มเติมโทร 092-809-9954