Paid, Owned,Earned, Shared Media คืออะไร

Krittitee Tongdang
December 24, 2024

Paid, Owned, Earned, Sheared Media (PESO Model ) กลยุทธ์ที่ทำให้มองเห็นตลาดในมุมที่กว้างขึ้น มีการใช้งานที่ง่าย สะดวก และ เพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ด้านการตลาดของแบรนด์ให้สูงขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราจะแนะนำให้ทุกท่าน รู้จักกับ PESO Model ไปพร้อมกันในบทความนี้

PESO Model คืออะไร ?

PESO Model คืออะไร ?

PESO Model กลยุทธ์สื่อ 4 ประเภท ที่เป็นเครื่องมือชั้นดีในการโฆษณา นำเสนอแบรนด์ของคุณให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ช่วยให้นักการตลาดสามารถมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และ วางแผนการตลาดอย่างเหมาะสม และได้ผลดียิ่งขึ้น  PESO ย่อมาจาก Paid, Earned, Shared, Owned ทั้ง 4 อย่างนี้ คือประเภทของสื่อที่ใช้ใน กลยุทธ์ PESO Model

ทำความรู้จักกับ Paid, Owned, Earned, Shared Media 

1. Paid Media 

Paid Media คือ สื่อหรือช่องทางโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้พื้นที่ในการโปรโมตแบรนด์ ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น โฆษณาทีวี, หนังสือพิมพ์, Banner, Facebook Ads , Google Ads และอื่นๆอีกมากมาย

สื่อโฆษณาประเภทแรกนี้ สามารถทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้ในเวลาเพียงไม่นาน แต่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะโฆษณาทีวีมีราคาสูงมาก ถึงอย่างนั้น คุณก็ยังสามารถควบคุมงบประมาณใหม่เหมาะสมและคุ้มกับการลงทุน ได้เช่นกัน

2.Owned Media 

Owned Media คือ สื่อที่แบรนด์ถือครอง เป็นเจ้าของเองทั้งหมด เช่น แฟนเพจ Facebookโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือเว็บไซต์ของตนเอง เป็นต้น โปรโมตได้โดยการนำข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของแบรนด์ รูปโฆษณา และสื่อโฆษณาต่างๆมาขึ้นแสดงบนช่องทางของตนเอง

วิธีการนี้ช่วยให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย เมื่อลูกค้าสนใจ และ ค้นหาเว็บไซต์ หรือแฟนเพจของคุณ ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และ ติดตามจากช่องเหล่านี้เป็นหลัก ดังนั้นการนำเสนอแบรนด์ผ่านช่องทางหลักของตนเองจึงต้องให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ และ ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อความไว้วางใจของลูกค้า และป้องกันเหตุผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

3. Earned Media 

Earned Media คือ การที่แบรนด์ถูกพูดถึง หรือมีคนนำไปโปรโมตเองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น ลูกค้าใช้ดีแล้วบอกต่อกันแบบ ปากต่อปาก หรือ แบรนด์ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งหลาย รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ คนมีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย แล้วมีการพูดถึงจนกลายเป็นที่รู้จัก

การโฆษณาในลักษณะนี้ มักมาจากการที่ลูกค้าได้ลองใช้สินค้าหรือบริการจากแบรนด์ละเกิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจ แสดงให้เห็นว่า ของดีมักจะดึงดูดผู้คนด้วยคุณภาพของตัวมันเอง และ คุณยังสามารถต่อยอดการโปรโมตแบรนด์ของคุณผ่านสื่อชนิดนี้ด้วยวิธีอื่นๆได้อีกด้วย

4. Shared Media 

Shared Media คือ การโปรโมตแบรนด์ผ่านการแชร์บนโลกโซเชียล เช่น จัดกิจกรรมแชร์ประสบการณ์ใช้งานจริง และบอกเหตุผลที่เลือกใช้ แชร์ลงช่องทางออนไลน์ของตนเอง ผู้ที่ให้เหตุผลโดนใจมากที่สุด จะได้รับรางวัลใหญ่จากแบรนด์ไปเลยฟรีๆ หรือจะเป็นการที่ลูกค้า รีวิวสินค้าของแบรนด์ลงช่องทางออนไลน์แล้วมีกระแสตอบรับที่ดี ก็ถือเป็นการแชร์อย่างหนึ่งที่ได้ผลดีมากเช่นเดียวกัน

ก่อนใช้ PESO Model ต้องรู้อะไรบ้าง ?

ก่อนใช้ PESO Model ต้องรู้อะไรบ้าง ?

การโฆษณา หรือ โปรโมตแบรนด์ผ่านสื่อทั้ง 4 ประเภทตามกลยุทธ์ PESO Model  มีคำแนะนำ และ รายละเอียดอื่นๆที่เราอยากแชร์ให้คุณเพื่อเป็นแนวทางในการนำไปใช้ ดังนี้

  1. การเลือกใช้สื่อทุกประเภท ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อวัดผลได้ง่าย
  2. หลายแบรนด์นิยมเริ่มโปรโมตจาก Owned Media ก่อนแล้วจึงต่อยอดไปประเภทอื่น
  3. ควรทำ Content Calendar เพื่อความสะดวกในการจัดการกับงาน
  4. ผลลัพธ์ของการใช้กลยุทธ์นี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ทั้ง 4 ช่องทางร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การโปรโมตแบรนด์ผ่านสื่อทุกประเภทควรมีความสอดคล้องกัน

Paid, Owned, Earned, Shared Media ต้องใช้ทั้งหมดเลยหรือไม่

ทางกลยุทธ์บอกไว้ว่า ควรใช้ทั้ง 4 ช่องทางร่วมกันอย่างสอดคล้อง แต่การใช้งานจริง ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องใช้ทั้งหมด เนื่องจากจุดประสงค์ของการโปรโมตสินค้าแต่ละตัว รวมถึงคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับตัวสินค้า อาจใช้ได้ดีที่สุดเฉพาะกับช่องทางใดช่องทางหนึ่งก็ได้ ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของคอนเทนต์ และความเหมาะสมด้วย

การกำหนด KPI สำหรับ PESO Model 

KPI เป็นอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ หากต้องการใช้กลยุทธ์ PESO Model เพื่อให้มีดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจนของแต่ละช่องทาง การกำหนดตัวชี้วัด ควรดูจากเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้สื่อแต่ละประเภทด้วย 

เช่น ต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น อายุ 15-19 ปี รู้จักประโยชน์ของสินค้า ผ่านทางวิดีโอสั้นๆ ที่โปรโมตโดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และโพสต์วิดีโอลง TikTok  ของพวกเขา วัตถุประสงค์และเป้าหมาย คือ การสร้าง Engagement ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด การวัดผลก็อาจดูที่จำนวน Engagement ว่าต้องการมากน้อยแค่ไหน ถึงตามเป้าหรือไม่ เป็นต้น 

การกำหนด KPI เบื้องต้นสำหรับ PESO นิยมวัดผลด้วยค่าตัวเลขต่างๆ เช่น จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการคลิกลิ้งก์ ปริมาณของผู้ใช้งานที่เข้ามามีส่วนร่วม ระยะเวลาที่ลูกค้าเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ เป็นต้น ยกตัวอย่างดังนี้

Paid Media

  • Lead Generation
  • Brand Awareness
  • User Engagement
  • Conversion

Owned Media

  • Lead Generation
  • Traffic
  • Brand Awareness
  • User Engagement
  • Conversion 
  • Time on page ระยะเวลาที่ลูกค้าอยู่บนเว็บไซต์

Earned Media

  • Brand Awareness 
  • Conversion
  • Lead Generation จาก Backlink ที่มีคนคลิกเข้าหน้าเว็บไซต์
  • User Engagement การกดไลค์ กดแชร์

Shared Media

  • User Engagement 
  • Brand Awareness
  • Conversion

บทสรุป

และนี่ก็คือความหมายของ PESO Model และตัวอย่างการใช้งาน รวมถึงวิธีการวัดผลเบื้องต้นของการนำกลยุทธ์นี้มาใช้ ซึ่งเป็นตัวช่วยชั้นดีที่นำพาให้แบรนด์ของคุณเติบโต และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แล้วอย่าลืมวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดปัญหาภายหลัง

อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์ PESO Model นั้นมีความละเอียดอ่อนที่ต้องใช้ประสบการณ์ความชำนาญสูง หากต้องการใช้ให้เกิดผลสำเร็จสูงสุด คุณจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ คอยแนะนำให้คำปรึกษา และ วางแผนอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Share: