Thanapat Panichvattanakul ในโลกของการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทยที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคงหนีไม่พ้นแพลตฟอร์มบริการ E-commerce อย่าง Lazada และ Shopee ผู้ให้บริการหลักสองคนได้ครองตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมากในการขายของบนออนไลน์ที่คุณสามารถเข้ามาสร้างร้านค้าของตนเองได้อีกด้วย ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ราคาที่แข่งขันได้ และประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สะดวกสบายมากที่สุด ทำให้เป็นตัวเลือกของผู้บริการและผู้ประกอบการในการหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อกระจายสินค้า
สำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายที่มีผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขายคงมีคนสงสัยว่า Shopee ดีกว่า Lazada หรือไม่? ซึ่งในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบและเปรียบเทียบ Shopee และ Lazada ในปัจจัยต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าแพลตฟอร์มใดที่ควรทำธุรกิจรวมด้วยมากที่สุด หรือควรจะทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มทั้งสองนี้อย่างไร ?
สำหรับคนไทยอาจจะรู้จัก Shopee ก่อนที่จะรู้จักกับ Lazada แต่บอกคนก็รู้จักและเคยใช้ Lazada ก่อน Shopee ซึ่งจริง ๆ แล้ว Lazada เป็นหนึ่งในการบุกเบิกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียเลยก็ว่าได้ ซึ่งเปิดตัวก่อน Shopee มากถึง 3 ปี อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน Shopee และ Lazada เป็นสองแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใช้โมเดลธุรกิจกับธุรกิจกับผู้บริโภค (B2B2C) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโมเดลธุรกิจกับผู้บริโภคและโมเดลธุรกิจกับธุรกิจเข้าด้วยกัน
ทั้งสองแพลตฟอร์มเปิดให้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่ทั้งระดับชุมชน ระดับโลก สามารถเข้ามาขายของในแพลตฟอร์มทั้งสองได้ง่าย ๆ โดยมีให้เลือกหลากหลากหมวดหมู่ ถามสินค้าที่คุณต้องการขายไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า แฟชั่น และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังได้ขยายการดำเนินงานไปยังหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ที่เราสามารถสั่งของจากต่างประเทศมายังประเทศไทยได้ง่ายยิ่งขึ้นและมีค่าบริการจัดส่งที่ถูกลงอีกด้วย
แต่นอนว่ารสนิยมในการเลือกใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากมองดูจากสถิติการใช้งานของทั้ง Lazada กับ Shopee บอกเลยว่า Lazada เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์เปลี่ยนไปมาก ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายที่ต้องการและเข้าถึงง่าย สามารถจัดส่งถึงที่โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม Shopee ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เข้ามาแข่งขันและพิสูจน์ให้เห็นว่าได้รับความนิยมในช่วงหลังที่มากกว่า Lazada เยอะมาก ๆ
ถึงสามารถวัดความนิยมได้จากการใช้งานเว็บไซต์ของ Lazada กับ Shopee ซึ่ง Shopee มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 59 ล้านครั้งต่อเดือน ในทางกลับกัน Lazada มีผู้เข้าชมมากกว่า 37 ล้านครั้งต่อเดือน อีกทั้ง Shopee ยังครองอันดับหนึ่งทั้ง App Store และ Google Play Store ในขณะเดียวกัน Lazada ก็ได้อันดับที่สองในร้านค้าแอปพลิเคชัน
อย่างไรก็ตามยอดการซื้อขายของทั้ง Lazada กับ Shopee ทางเราก็ไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าร้านค้าในแพลตฟอร์มไหนจะขายดีมากกว่ากัน แต่ด้วยการเข้าชมก็อาจจะให้คำตอบกับทุกคนได้มากแล้ว
สิ่งที่สำคัญสำหรับการเข้าไปใช้บริการของแพตลฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งสองที่จะทำให้คนเข้าไปใช้งานมากที่สุดคือ ประสบการณ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น ความง่ายในการนำทางเว็บไซต์และทำธุรกรรมการชำระเงินต่าง ๆ เช่น การสั่งซื้อ การติดตาม การยกเลิก และการคืนเงิน ทุกอย่างมีผลต่อความนิยมของผู้คนมาก ๆ ที่ผู้ประกอบการควรตัดสินใจในการลงขายของกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ
หากให้เราลองมาเปรียบเทียบ Lazada และ Shopee ในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้ที่ใช้เดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือบอกเลยว่า เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์และแอพพลิเคชั่นของทั้ง Lazada และ Shopee นั้นใช้งานได้ง่ายพอ ๆ กัน ซึ่งระบบต่าง ๆ แถมจะเหมือนกันทั้งหมด เพียงแค่รูปแบบหน้าตาที่เปลี่ยนไปที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น ในการเลือกซื้อมีตัวเลือกหมวดหมู่และตัวกรองการช้อปปิ้งที่ค้นหาได้ง่ายและหลากหลายที่ทั้งสองแพลตฟอร์มทำออกมาได้ดีมาก ๆ
นอกจากนี้ ขั้นตอนการทำธุรกรรมทั้งหมดตั้งแต่การเลือกดูผลิตภัณฑ์และการสั่งซื้อไปจนถึงการชำระเงินในการซื้อนั้นราบรื่นทั้งบน Lazada และ Shopee มีตัวเลือกของการชำระเงินที่หลากหลาย ในปัจจุบันทั้งสองได้มีข้อเสนอดี ๆ อย่างการซื้อก่อนจ่ายที่หลัง คุณสามารถชำระเงินภายในสิ้นเดือนได้โดยไม่มีค่าดอกเบี้ย และแม้แต่การให้เครดิตในการซื้อของที่คุณสามารถผ่อนจ่ายกับทางแพลตฟอร์มได้อีกด้วย โดย Shopee จะเรียกว่า LazPayLater
เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย ในการเลือกเปลี่ยนสินค้าบนแพลตฟอร์มนี้คือการให้ความคุ้มครองแต่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย Shopee มีความได้เปรียบเหนือ Lazada คือการรับประกันของ Shopee ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยในการซื้อ ปกป้องพวกเขาจากผู้ขายที่ฉ้อโกงและสินค้าปลอมหรือชำรุดได้ดีกว่ามาก ๆ จึงทำให้ Shopee ได้รับความนิยมมากกว่ากว่า
การรับประกันของ Shopee ทำงานโดยการระงับการชำระเงินให้กับผู้ขายและปล่อยการชำระเงินเฉพาะเมื่อผู้ซื้อยืนยันว่าได้รับคำสั่งซื้อในสภาพที่ดีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันทาง Lazada ก็มีการพัฒนาระบบให้มีความสามารถเหมือนกับ Shopee แต่อย่างไรก็ตามความไว้วางใจต่อผู้ขายและผู้ซื้อทาง Shopee อาจจะดีกว่า Lazada ถึงแม้ตอนนี้ระบบต่าง ๆ จะมีความปลอดภัยเหมือนกัน
ส่วนตัวเลือกการเลือกขายของบนแพลตฟอร์ม Lazada หรือ Shopee อย่างแนะนำให้คุณลองขายกับ Shopee ก่อนจะดีกว่า เพราะระบบหลังบ้านต่าง ๆ สามารถเข้าไปใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องมีแอพพลิเคชั่นแยกเพื่อทำการจัดการกับระบบต่าง ๆ เหมือนกับ Lazada แต่อย่างไรก็ตามระบบของ Lazada นั้นก็ใช้งานได้ไม่ยากเพียงแค่จะต้องเข้าไปสมัครกับ Lazada Seller Center เพื่อยืนยันตัวตนซึ่งค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะในการอนุมัติ ซึ่งทาง Shopee จะสามารถเข้าไปสมัครและได้รับการอนุมัติได้เร็วกว่า
จริง ๆ แล้วการทำธุรกิจขายสินค้ากับ Lazada หรือ Shopee เราสามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้เลย เพื่อให้เป็นทางเลือกของกลุ่มเป้าหมายที่มีการใช้งานแพลตฟอร์มที่แตกกันสามารถมีโอกาสค้นหาสินค้าของธุรกิจคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไปที่แพลตฟอร์มไหนก็จะเจอกับสินค้าของธุรกิจคุณนั้นเอง
Lazada กับ Shopee ถือเป็นอีกหนึ่งของการขายของบนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และร้านค้าต่าง ๆ สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าการเปิดหน้าร้านจริง ๆ ตามห้างหรือตลาดอีกด้วย ทั้งสองแพลตฟอร์มมีตัวเลือกบัญชีผู้ขาย C2C ผู้ขายในท้องถิ่น ผู้ขายแบรนด์ และบัญชีผู้ขายทั่วโลก ถึงคุณจะเป็นผู้ประกอบการเล็ก ๆ หรือบุคคลทั่วไปแต่อยากขายของ สามารถเริ่มจำหน่ายและทดสอบขายของบน Shopee หรือ Lazada ก่อนได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตามหากคุณเปิดธุรกิจแบบจริงจัง และอยากที่จะเข้ามาขายสินค้าของคุณบน Lazada กับ Shopee แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นในการขายของแบบมืออาชีพอย่างไร สามารถเข้ามาปรึกษากับ Asia Search Solution ที่ให้บริการ รับดูแล Shopee และ รับดูแล Lazada ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บริษัท Digital Marketing Agency ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมให้บริการธุรกิจของคุณด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้แบรนด์ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จกับแคมเปญการตลาดออนไลน์
Copyright © 2024 Asia Search Solutions Co.,ltd
Performance Marketing
