เมื่อคุณก้าวเข้ามาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องรู้คือเรื่องของภาษีต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการจะต้องเสีย โดยเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรามักเรียกว่า Vat นั้นไม่ใช้เพียงแค่ผู้ประกอบการจะต้องทำความเข้าใจและผู้บริโภคและผู้ใช้บริการทุกคนจะต้องรู้ว่า Vat คืออะไรและทำให้ทางผู้ประกอบการถึงต้องคิด Vat 7% ที่คุ้นหูคุ้นตานี้เพิ่มมาในใบเสนอราคา และการจะเก็บ Vat 7% ผู้ประกอบการจะต้องมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับบริษัทหรือไม่ วันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังเอง
Table of Contents
Toggleหากพูดถึง ภาษีมูลค่าเพิ่ม หลายคนงงไม่รู้ว่ามันคือภาษีตัวไหนเก็บยังไง แต่หากพูดว่า VAT (Value Added Tax) ก็จะพาคุ้นหูคุ้นตากันบ้าง ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากการเพิ่มมูลค่าของสินค้าหรือบริการในทุกขั้นตอนของการผลิตและการจัดจำหน่าย โดยที่ผู้ประกอบการจะต้องเก็บภาษีนี้จากผู้ซื้อในแต่ละขั้นตอนแล้วนำส่งให้แก่รัฐ โดยประเทศไทยจะมีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 7% ของราคาสินค้าและบริการ ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ก็มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ อย่างประเทศญี่ปุ่นที่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มถึง 10 %
แน่นอนว่าไม่ใช่ใครก็สามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหรือบริการของตนเองได้ สำหรับหลักในการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการ ภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าและบริการในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตและการจำหน่าย ผู้ประกอบที่มีการจดทะเบียนจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปในราคาสินค้าหรือบริการที่ขาย
โดยทั่วไปแล้วการหักภาษีซื้อผู้ประกอบการมีสิทธิ์หักลบภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายในขั้นตอนการซื้อวัตถุดิบหรือบริการจากภาษีที่เรียกเก็บจากลูกค้าในขั้นตอนการขาย ส่วนต่างระหว่างภาษีขาย (Output Tax) กับภาษีซื้อ (Input Tax) จะต้องนำส่งให้แก่รัฐ โดยที่ผู้ประกอบการจะต้องยื่นรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มและชำระภาษีต่อกรมสรรพากรตามกำหนดเวลาที่กำหนด
โดยทั่วไปแล้วการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ จด Vat ผู้ประกอบสามารถเข้าไปจดทะเบียนได้ทุกคน ถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณไม่เป็นบริษัทก็สามารถจดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบที่ควรทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมักจะมีอยู่ 3 กรณีด้วยกันคือ
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการบางรายนั้นไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้เช่นกัน แต่จะต้องเป็นไปตามกฎหมายข้อยกเว้นซึ่งมีระบบไว้ว่าจะต้องเป็นผู้ประกอบการหรือองค์กรดังต่อไปนี้
ปัจจุบันการจดภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะทางสำนักงานสรรพากรเปิดให้ผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ยื่นเอกสารการจัดภาษีผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง www.rd.go.th ได้เลย หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่ก็ได้เช่นกัน โดยจะต้องเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยซึ่งสามารถเข้าไปดูว่าควรเตรียมเอกสารใดบ้างที่เว็บไซต์ที่เราแนะนำได้เลยจะมีบอกไว้อย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยในการจดภาษีเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1161 ได้เลย
สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ามาเห็นบนความนี้คงรู้แล้วว่าการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร เพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากรผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีควรจด Vat ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและสามารถเรียกเก็บภาษีจากลูกค้าเพื่อนำส่งให้แก่รัฐ
อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้ามาให้เราช่วยในการทำการตลาดออนไลน์แต่ยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจเพราะกลัวว่าเรานั้นไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งเราเป็น บริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่ ที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เรามีลูกค้าบริษัทใหญ่ ๆ มากมายเข้ามาติดต่อใช้บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รับดูแลเพจ Facebook , รับทำ SEO , และการทำการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือตรวจสอบได้จริงอย่างแน่นอน
หลุยส์นักเขียนบทความที่สามารถเขียนบทความได้ทุกรูปแบบตามข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อให้เกิดบทความใหม่ ๆ ในรูปแบบที่ผู้คนสามารถเข้ามาอ่านได้ง่ายขึ้น เกี่ยวกับ Digital Marketing เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักการตลาดทุกคน
Performance Marketing