ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับการดึงดูดลูกค้าล้วน ๆ ในการแข่งขันเพื่อเพิ่มรายได้ ยอดเข้าชมจาก Organic Search นั้นคือหัวใจหลัก มาดูกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น…
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่จำเป็นต้อง ทำ SEO เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (brand awareness) ด้วยงบประหยัด การปรากฎบนหน้าแรกของผลการค้นหา หรือแม้แต่ในฟีเจอร์กล่องคำตอบ (Answer Box) ของ Google จะเป็นจุดแรกที่นักช๊อปจะเห็นคุณได้ หรืออย่างน้อยก็พอย้ำเตือนได้ว่าเคยเข้าใช้งานเว็บไซต์คุณมาก่อน
นอกจากนี้ ผู้ค้นหาบางคนยังมองว่าอันดับในหน้าแรกนั้นน่าเชื่อถือ ทำให้มีแนวโน้มที่จะคลิกตัวเลือกอันดับต้น ๆ ค่อนข้างสูง
ช่องการการตลาดแบบดั้งเดิม การรับรู้ ความสนใจ ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าจะอาศัยกระแสของนักช๊อปหน้าใหม่อยู่ตลอด ๆ แต่ในเกม SEO เราคือผู้กำหนดการเพิ่มลดของยอดผู้เข้าชมเอง แถมยังใช้ต้นทุนไม่สูงเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น SEO ยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านจากการรับรู้ไปสู่ความสนใจ และไปสู่การซื้อขายของนักช๊อปด้วย การแสดงเจตนาด้วยการเลือกใช้คีย์เวิร์ดจะเปลี่ยนจากการให้ข้อมูลไปเปลี่ยนการซื้อขายได้ การกำหนดเป้าหมายให้ตรงกับเจตนาให้ตรงจุดและเหมาะสมบนหน้าเว็บไซต์จะช่วยกระตุ้น Movement ของนักช๊อปให้ไปอีกเฟสหนึ่งได้ แถมยังเพิ่ม conversion ได้อีกด้วย
การโฆษณาคีย์เวิร์ดด้วยเจตนาเพื่อชักจูงให้ซื้อขายนั้นสมเหตุสมผลในตัวอยู่แล้ว แต่คุณค่าของคอนเทนต์ จำพวกบล็อกโพสต์, คู่มือนักช๊อป และบทความ How-to ไม่ได้เกิดทันที
คอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ ที่พูดมานี้ SEO ช่วยได้ ความพยายามในการปรับแต่งเนื้อหาสามารถเพิ่มยอดผู้เข้าชมได้โดยใช้งบประมาณอันน้อยนิด สิ่งที่ต้องใช้มีเพียงความเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้คนต้องการจะค้นหา (บนพื้นฐานของ Keyword Research), ความสามารถในการปรับแต่งเนื้อหา, การเข้าถึง Content Management System และเวลา
บทความที่เกี่ยวข้อง การเขียน Content บนเว็บไซต์ เข้าถึงผู้บริโภค
เมื่อเหล่านักช๊อปเข้ามาที่เว็บไซต์ผ่านการค้นหาแบบออร์แกนิก ก็ถึงเวลารีมาร์เก็ตติ้ง (remarketing) ของทีมการตลาดของคุณแล้ว คุณสามารถแสดงภาพโฆษณาให้นักช๊อปเหล่านั้น เมื่อพวกเขากดออกเว็บคุณแล้วไปที่อื่น พวกเขายังคงจะเห็นภาพโฆษณาของคุณเรื่อย ๆ จนกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณในท้ายที่สุด ดังนั้น ยิ่งดึงผู้เข้าออร์แกนิกได้มากเท่าไหร่ ผู้ชมแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งของคุณก็จะมากขึ้นตาม
SEO remarketing จะยิ่งสมเหตุสมผลขึ้น เมื่อคุณเห็นว่าเก็บทุกรายละเอียดของการเข้าชม จำไว้ว่าขณะที่ผู้เข้าชมกำลังเยี่ยมชมเว็บไซต์ คุณจะต้องทำให้พวกเขาเห็นอยู่เรื่อย ๆ ว่าคุณมีอะไรน่าสนใจ อยากจะนำเสนอให้แก่พวกเขา
15% ของคำค้นหาเป็นคำใหม่ที่ Google ไม่เคยเห็นมาก่อน วลีที่คลุมเครือและถูกใช้ค้นครั้งเดียวนี่แหละน่าสนใจ เราเรียกว่า Long Tail Keyword แม้จะประกอบไปด้วยคำค้นหาที่กระตุ้นการค้นหาได้ไม่มากนัก แต่อยากจะบอกว่าคำเหล่านี้มองข้ามไม่ได้เลย คิดรวม ๆ แล้วเป็นมากถึง 40% ของการค้นหาทั้งหมด และยังมีแนวโน้มที่จะสร้าง Conversion ได้สูงกว่าคีย์เวิร์ดอื่น ๆ อีกด้วย
โดยปกติแล้ว เว็บอีคอมเมิร์ซจะมีโครงสร้างเพื่อช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายการค้นหาแบบ Long-tail โดยจะสร้างขึ้นตามระดับรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นทีละระดับ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เส้นทางการคลิกของเว็บขายเสื้อผ้าจาก เสื้อผ้า > เสื้อผ้าผู้ชาย > เครื่องประดับ > เนคไท > เนคไทสีน้ำเงิน > เนคไทผ้าไหมสีน้ำเงิน เป็นต้น หน้าพวกนี้จะอยู่ลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ในเส้นทางการคลิก และก่อร่างสร้างตัวเป็น Long Tail Keyword ในท้ายที่สุด เช่นตัวอย่างข้างบนที่จะกลายเป็น “เนคไทไหมสีน้ำเงินสำหรับผู้ชาย” แต่ก็อย่างว่ามันมีจำนวนเยอะมากเกินที่จะกำหนดเป้าหมายแยกกันได้ SEO ที่ปรับขนาดได้เลยเป็นหัวใจสำคัญ
User Experience ที่แข็งแรงจะช่วยสร้าง conversion ส่วน SEO จะทำให้เราเข้าใจนักช๊อป และเพิ่มประสิทธิภาพให้การใช้งานในเว็บไซต์ รวมถึงช่วยจัดอันดับให้อีกด้วย
ข้อมูลของคีย์เวิร์ดเป็นประตูไปสู่ความต้องการของนักช๊อป พวกเขาต้องการบางอย่าง และนั่นคือเหตุผลที่พวกเขากำลังค้นหา เว็บไซต์ที่เติมเต็มความต้องการของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วจะสร้างยอดขายได้ และด้วยข้อมูลเดียวกันนี้ก็จะช่วยเข้าใจสิ่งที่นักช๊อปคิดหรือพูดถึงความต้องการของพวกเขา การใช้คีย์เวิร์ดพวกนั้นในเว็บไซต์ของคุณจะช่วยปรับปรุงการใช้งานได้ เช่น ถ้าผู้คนค้นหา “เนคไทไหมสีน้ำเงิน ราคาถูก” การเน้นไปที่ราคาประหยัดก็อาจช่วยให้การใช้งานดีขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น User Experience ที่ดีขึ้นก็ยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ Google แต่ถ้าผู้ค้นหาจำนวนมากคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ แล้วคลิกกลับออกไปทันที Google จะคิดว่าเว็บไซต์ของคุณไม่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้น หรือไม่ก็ไม่ใช่ที่ต้องการ และก็ปัดคุณตกจากอันดับไป
เนื้อหาที่คุณเพิ่มประสิทธิภาพตามกลยุทธ์ SEO ควรเป็นประโยชน์ต่อแคมเปญ Google Ads ด้วย ลองคิดภาพตามว่าคุณใช้คีย์เวิร์ดทั้งแบบออร์แกนิกและที่ต้องเสียเงินร่วมกัน คะแนนคุณภาพของ Google จะวัดความเกี่ยวข้องของโฆษณากับ Landing Page เพื่อกำหนดราคาต่อคลิก หรือ Cost Per Click.
หน้า Landing Page ที่ปรับให้เหมาะสมแล้วย่อมมีคะแนนคุณภาพที่ดีขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของ organic search สูงขึ้นและราคาต่อคลิกลดลง
SEO คือการลงทุนในระยะยาว ไม่เหมือนการทำโฆษณา เพราะมันจะยังส่งมอบคุณค่าดี ๆ ให้คุณอยู่เสมอแม้ว่าแคมเปญจะจบลงไปแล้ว
แต่ SEO ไม่ใช่ว่าจะพยายามเพียงรอบเดียวแล้วเห็นผลเลย มันจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นวงจรหรือวัฎจักร เนื้อหาที่ปรับแต่งอย่างดี โครงสร้างเว็บไซต์ที่ได้มาตรฐาน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกันรวมเป็นเว็บไซต์คุณภาพสูง และยกระดับประสิทธิภาพ organic search ไปได้ในระยะยาว
สำหรับการทำ SEO ให้กับเว็บธุรกิจของเราให้มีประสิทธิภาพ ในการเข้าถึงการค้นหาบน Google สามารถเข้ามาให้เรา Asia Search Solution บริษัท Digital Marketing Agency ช่วยทำ SEO ให้ให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักจากการ Search ของกลุ่มลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป่าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท Digital Marketing Agency ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมให้บริการธุรกิจของคุณด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้แบรนด์ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จกับแคมเปญการตลาดออนไลน์
Copyright © 2024 Asia Search Solutions Co.,ltd
Performance Marketing
asiasearch
Louis Potsavee
