หากคุณทำการตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก คุณคงรู้ดีว่าการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาเพื่อดึงดูดการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณคือการต่อสู้
หากไม่มีกลยุทธ์ที่ครอบคลุมพอ ก็คงเป็นเรื่องยากที่เนื้อหาคุณภาพจะได้รับการจัดอันดับต้น ๆ ของ SERP แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหวังไป โชคดีที่มียังพอสองสามวิธีที่คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการถูกมองเห็นได้
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างโอกาสให้เนื้อหาของคุณคือ Featured Snippets ของ Google ที่จะแสดงตัวอย่างข้อมูลเพื่อตอบคำถามผู้ใช้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น มันจะแสดงขึ้นก่อนผลการค้นหาทั่วไปที่ไต่อันดับด้วยคีย์เวิร์ดเสียอีก หากคุณสามารถดึงยอดเข้าชมด้วย Featured Snippets ได้คุณก็จะสามารถสร้างรายได้และขยายการเข้าถึงของคุณได้กว้างขึ้น
หลัก ๆ แล้ว Featured Snippets มี 4 ประเภท ได้แก่ พารากราฟ ตาราง ลิสต์และวิดีโอ ยืนยันเลยว่าทุกรายการสร้างประโยชน์มหาศาลสำหรับการเพิ่มปริมาณการค้นหาในเว็บไซต์ของคุณได้แน่นอน
ในบทความนี้เราจะอธิบายแบบง่าย ๆ ว่าอะไรคือ Featured Snippets ทำไมจึงมีประสิทธิภาพในการสร้างการเข้าชมได้ขนาดนั้น และวิธีที่จะสามารถออกแบบเนื้อหาเพื่อสร้างโอกาสที่ดีที่สุดแก่เว็บไซต์ของคุณ ไปลุยกันเลย…
Featured Snippets คือเนื้อหาที่ตัดตอนออกมาเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วเอามาปรากฏที่ด้านบนสุดของ Google SERP เป็นการให้คำตอบที่รวดเร็วแก่ผู้ใช้ แถมยังแสดงก่อนผลลัพธ์อันดับแรกอีกด้วย เรียกได้ว่า “ตำแหน่งที่ 0” เลยก็ว่าได้
มันควรจะเป็นคำตอบที่สั้นและรวดเร็ว เพื่อตอบคำถามของผู้ใช้งาน Google ไม่ได้เป็นคนสร้างเนื้อหา Featured Snippets นี้ขึ้นมาเอง แต่จะดึงเอาเนื้อหาโดยตรงจากหน้าเว็บที่พบในการทำดัชนี
Google จะวิเคราะห์ข้อความค้นหา พยายามเชื่อมโยงผลลัพธ์เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ และเลือกข้อความที่ตัดตอนมาที่ดีที่สุดที่สามารถดึงมาจากเนื้อหาที่มีอยู่เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้
หมายความว่า “ตำแหน่งที่ 0” พร้อมที่จะคว้าแล้ว แต่ทำไมคุณถึงต้องการให้เนื้อหาของคุณปรากฏที่ด้านบนสุดของ Google
Featured Snippets ประกอบด้วยลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่เอาข้อมูลมา ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเนื้อหาและปัจจัยอื่น ๆ ที่หลากหลายประกอบกัน แต่โดยทั่วไปเว็บไซต์แสดงผลด้วยวิธีจะเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ได้ทุกราย
ยิ่งถ้าคุณอยากทำ Local SEO ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ Featured Snippets จะช่วยคุณให้เข้าถึงได้กว้างขึ้นแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง 15 เหตุผลที่ SEO สำคัญต่อธุรกิจคุณ
snippet box ทำให้ชีวิตของผู้ค้นหาใน Google ง่ายขึ้นด้วยการให้คำตอบที่กระชับเมื่อทำการค้นหา หลักการง่าย ๆ คือทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านตัวอย่างสั้น ๆ เพื่อรับคำตอบพื้นฐานสำหรับคำถามของพวกเขาโดยไม่ต้องคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ปรากฎบน SERP
จุดที่ Featured Snippets อยู่มีความสำคัญต่อคุณในฐานะนักการตลาดมาก เนื่องจากเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้มากที่สุด เป็นจุดแรกที่ผู้ใช้เห็นเมื่อทำการค้นหา ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่ Featured Snippets สามารถให้เว็บไซต์ของคุณได้:
Featured Snippets ไม่ใช่ one size fits all มีบางประเภทที่ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ใช้ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลที่ผู้ใช้กำลังค้นหา
การทำความเข้าใจว่า Featured Snippets ประเภทไหนที่จะเหมาะกับหัวข้อของคุณมากที่สุดจะช่วยให้คุณจัดระเบียบเนื้อหาและสร้างโอกาสที่ดีที่สุดในการเป็นส่วนหนึ่งของ Featured Snippets ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึง Featured Snippets ประเภทต่าง ๆ พร้อมอธิบายวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำเสนอข้อมูล
ตัวอย่างนี้ให้คำจำกัดความสั้น ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้หรือข้อมูลสั้น ๆ ในหัวข้อหนึ่ง ๆ
ข้อสงสัยเกี่ยวกับคำถามหรือสรุปข้อมุลสำคัญ ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อความพารากราฟที่ได้เป็น answer box ในด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา:
นอกจากนี้ยังมี definition boxes ที่มีไว้สำหรับการค้นหาที่ตรงไปตรงมา ซึ่งผู้ใช้กำลังค้นหาความหมายพื้นฐานของคำหรือแนวคิด:
ข้อมูลโค้ดประเภทนี้ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพข้อมูลสำหรับการเปรียบเทียบประเภทต่าง ๆ Featured Snippet ของ Google ส่วนใหญ่คือตาราง ข้างล่างนี้ตัวอย่าง featured snippet แบบตาราง ที่เรายกมาให้คุณ
ลิสต์ ให้ข้อมูลได้หลายรูปแบบมาก สามารถใช้เพื่อจัดอันดับสิ่งต่าง ๆ แสดงขั้นตอนของกระบวนการ หรือระบุผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ Featured Snippet แบบลิสต์นี้สามารถเรียงลำดับหรือไม่เรียงลำดับก็ได้ และคุณจะเห็นรายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยสำหรับรายการ คุณลักษณะ และรายการประเภทต่าง ๆ ทั้งที่มีการจัดอันดับและไม่มีการจัดอันดับ
YouTube เป็นหนึ่งใน Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตัวอย่างวิดีโอแนะนำจะเป็น Featured Snippet ที่น่าน่าสนใจ และแนะนำให้ลองใช้
หากวิดีโอให้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามของผู้ใช้ วิดีโอนั้นกลาย Featured Snippets ให้เว็บไซต์ของคุณ
ตอนนี้เราได้พูดถึง Featured Snippets ประเภทต่าง ๆ ไปแล้วพื้นฐาน ต่อไปเรามาพูดถึงวิธีที่คุณจะสามารถจัดอันดับด้วยสิ่งเหล่านี้ได้
ข้อเสียเดียวเลยคือ ไม่มีทางรับประกันได้ว่า Google จะใช้เนื้อหาของคุณเป็น Featured Snippet เพราะ Google มีอัลกอริทึมที่ประเมินตัวอย่างข้อมูล (และอันดับการค้นหา) อย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าข้อมูลรูปแบบไหนตอบคำถามได้ดีที่สุดสำหรับข้อความค้นหาของผู้ใช้ บางครั้งคำตอบจากลิสต์อาจถูกแทนที่ด้วยวิดีโอ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมที่ส่งผลกระทบต่อ SERP
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณทำได้คือสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและตรงเป้าหมาย เพื่อให้มีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือก ต่อไปเราจะพูดถึงวิธีต่าง ๆ ที่คุณสามารถทำให้ตัวเองได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
Keyword Research ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์ ทำ SEO เพราะสามารถช่วยให้คุณรู้ว่าคุณควรสร้างเนื้อหาประเภทไหนเพื่อให้มีคนสนใจ ในกรณีของ Featured Snippets การทำ Keyword Research ยังคงช่วยระบุข้อความค้นหาที่มีแนวโน้มจะได้รับการจัดอันดับให้เป็น “ตำแหน่งที่ 0” เพื่อให้สร้างและจัดระเบียบเนื้อหาให้เหมาะสมและพิชิตมันมาได้
วิธีในการทำ Keyword ให้เหมาะสมกับ Featured Snippets มีดังนี้ วิธีแรกคือการพิมพ์ข้อความค้นหาด้วยตนเองและดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร คุณอาจมีแนวคิดเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดสำหรับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณแล้ว ดังนั้นอย่าลังเลที่จะพิมพ์ลงในแถบค้นหาและดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือมีอะไรแสดงมาบ้าง
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเปิดเว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์การออกกำลังกาย อาจลองค้นหาคีย์เวิร์ด เช่น “วิธีเริ่มกิจวัตรการออกกำลังกาย” หรือ “การออกกำลังกายที่บ้าน” ดู
คุณอาจสังเกตเห็นว่าข้อความค้นหาทั้งสองข้างต้นไม่แสดง Featured Snippets ให้คุณ แต่หากลองเพิ่มความเฉพาะเจาะจงเข้าไปเป็น “การออกกำลังกายหน้าท้องแบบใหม่สำหรับผู้เริ่มต้น” ตรงนี้อาจจะเวิร์กกว่า
เห็นได้ชัดว่าต้องใช้เวลามากเกินไปในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการจัดอันดับ แต่โชคดีแล้วที่เด๊่ยวนี้เครื่องทุ่นแรงมาช่วยคุณหาคีย์เวิร์ดมากมาย
เครื่องมือที่ค้นหาคีย์เวิร์ด จะทำให้ Keyword Research เป็นไปอย่างไปตรงมาและเรียบง่าย มันจะช่วยคุณประเมินลักษณะเฉพาะของ SERP หลายอย่างเพื่อดูว่าหัวข้อใดมี Featured Snippets คีย์เวิร์ดแบบ Long-tail คำไหนที่มีการแข่งขันต่ำที่สุด และ Featured Snippet ประเภทไหนที่ได้รับการจัดอันดับสำหรับข้อความค้นหานั้น ๆ
Keyword Research จะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด คุณจะสามารถดูคุณลักษณะต่างๆ เช่น people also ask (PAA), top stories และ knowledge panels (แผงข้อมูลที่ปรากฏขึ้นทางด้านขวาของการค้นหาโดย Google) เพื่อดูว่าผู้คนค้นหาคำถามไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อและข้อมูลที่เป็นประโยชน์
เมื่อคุณกำหนดคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการเน้นสำหรับ Featured Snippets ได้แล้ว และได้สร้างเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคำเหล่านั้นแล้ว ทีนี้ก็เหลือเพียงการติดตามตำแหน่งเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของงานที่คุณทำเสร็จไปว่าเวิร์กหรือไม่
แม้ว่า Featured Snippets จะมีหลายประเภท แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันคือ ข้อมูลเหล่านี้อิงจากข้อเท็จจริง มีแพลตฟอร์มออนไลน์มากมายให้คุณแบ่งปันความคิดเห็น เพียงแต่ Google ต้องการให้เนื้อหามีจุดมุ่งหมายที่สมบูรณ์เพื่อจะมาแสดงเป็น Featured Snippets
เนื้อหาของคุณควรกระชับและตรงประเด็น Featured Snippets ที่ดีควรอ่านง่ายและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว หากเป้าหมายของคุณคือการได้รับ Featured Snippets ให้ทำให้เนื้อหาของคุณเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คำพูดที่ใหญ่โตและคำพูดที่สับสนมีแต่จะทำลายโอกาสของคุณ
Structured Data ช่วยให้ Search Engine อย่างเช่น Google, Yahoo และ Bing รู้จักเนื้อหาของคุณและสร้างตัวอย่างข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับเนื้อหานั้น หากคุณเพิ่ม Structured Data ลงในเนื้อหา ข้อมูลนั้นก็ถูกจะนำไปจับคู่กับการแสดงข้อมูลบน SERP แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษา Featured Snippets ให้ปลอดภัย ตัวอย่างของ rich snippets ที่เจอบ่อย ได้แก่:
สมมติว่าคุณจะเขียนบทความเกี่ยวกับสูตรไก่ทอดหาดใหญ่ แนะนำให้ใส่ข้อมูลเฉพาะลงในเนื้อหา เช่น ต้องทอดนานแค่ไหน ต้องใช้ไฟแรงหรือไฟอ่อน ต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง และเวลาทำอาหาร เป็นต้น
สร้างโอกาสให้ Search Engine เข้ามาจับคู่เอาเนื้อหาของคุณไปแสดงในหน้าลการค้นหาโดยการใช้โค้ด Structured Data ที่เหมาะสม ทีนี้ก็แค่รอหน้าเพจนี้ของเราไปขึ้นไปอยู่ที่ อันดับที่ 0 เท่านั้น
คุณอาจจะต้องใช้ universal search language ร่วมด้วย ให้เหมือนกับที่แสดงบน Schema.org เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่ถูกต้องจากเพจของคุณจะถูกดึงออกมาเป็นผลการค้นหาที่แสดงอย่างสมบูรณ์หรือ Featured Snippets แนะนำข้อมูลจากเราไปอย่างสมบูรณ์แบบ
หนึ่งในวิธีการเพิ่มโอกาสในการได้รับ Featured Snippets คือการจัดระเบียบและจัดรูปแบบเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพ ทั้ง Heading และ Subheading ทั้งหมดควรสัมพันธ์กันและตั้งค่าเนื้อหาในลักษณะที่สามารถให้คำตอบโดยตรงได้
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายของคุณ หัวข้อหลักของคุณอาจเป็นเช่น “สร้างหน้าท้องที่ดีขึ้นใน 30 วัน” และหัวข้อย่อยของคุณอาจเป็นการแนะนำการออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น:
การทำให้เนื้อหาของคุณอ่านง่ายก็มีความสำคัญเช่นกัน ปรับเปลี่ยนรูปประโยคและความยาวย่อหน้าของคุณเพื่อทำให้เนื้อหาของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้อ่าน
ใช้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยและลิสต์ต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงความลื่นไหลและความชัดเจน ไม่มีใครอยากอ่านบทความที่สับสน ทำให้ผู้อ่านสามารถค้นหาคำตอบที่พวกเขากำลังค้นหาในเนื้อหาของคุณได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
Featured Snippets ที่ใช่! จะสามารถปรับปรุง CTR ของเว็บไซต์ของคุณได้ แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะรักษาความปลอดภัยหากคุณไม่ได้ใช้เครื่องมือ SEO ที่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะลอง Featured Snippet แบบต่าง ๆ เพราะมันก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้คุณได้แสดงตัวตนผ่าน Featured Snippet แต่เพื่อให้ได้มันมา ลองค้นคว้าคีย์เวิร์ดให้ครอบคลุม จัดระเบียบเนื้อหาให้เหมาะสม ยังไงก็มีโอกาสได้อยู่ในอันดับที่ 0 ได้
การเรียนรู้เคล็ดลับและทักษะบางอย่างในการสร้างการเข้าถึงจะสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างแท้จริง จำไว้ว่าการสร้างยอดเข้มแบบออร์แกนิกต้องใช้เวลา แต่ถ้าคุณสร้างและดำเนินการตามแผนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอิทธิพล ก็จะทำให้โอกาสธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จสูงสุดได้ในท้ายที่สุด ทุกธุรกิจที่สนใจ สามารถเข้ามาปรึกษา Digital Marketing Agency ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ SEO กับเราได้เลยที่นี่
บริษัท Digital Marketing Agency ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมให้บริการธุรกิจของคุณด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้แบรนด์ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จกับแคมเปญการตลาดออนไลน์
Copyright © 2024 Asia Search Solutions Co.,ltd
Performance Marketing
asiasearch
Louis Potsavee
