Keyword Density คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับ SEO

Louis Potsavee
July 2, 2023

Keyword Density …. ไม่ใช่แค่คีย์เวิร์ดที่คุณใช้นั้นที่สำคัญ แต่จำนวนที่ใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน และก็ค่อนข้างมีผลต่อการจัดอันดับด้วย

คุณคงรู้กันอยู่แล้วว่าการใช้คีย์เวิร์ดหลักและวลี Long-Tail นั้นจำเป็นแค่ไหนต่อการปรับปรุงอันดับของ Search Engine แต่ต้องใช้คีย์เหล่านั้นกี่ครั้ง และจำนวนครั้งที่ใช้มันสำคัญมากไหม ใครจะรู้บ้าง?? 

คำตอบสั้น ๆ เคลียร์ ๆ เลยคือ สำคัญมาก!! เพราะในโลก SEO มันมีสิ่งที่เรียกว่า “keyword density” อยู่ และเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจกระบวนการอย่างเต็มรูปแบบ ในบทความนี้เราจะมารวบรวมทิปสั้น ๆ เพื่ออธิบายความหมายและความสำคัญของ “keyword density” นี้กัน

นอกจากนี้ เรายังจะพูดถึงว่าทำไมบางวิธีถึงต้องหลีกเลี่ยง เช่น การยัดคีย์เวิร์ด และวิธีที่ทำลายอันดับใน Google ซึ่ง Asia Search ได้รวบรวมความรู้ทั้งหมดที่มี เพื่อมาให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปพร้อบกัน กับประสบการณ์ในการทำ Digital Marketing Agency และบริการรับทำ SEO ที่มีความเชียวชาญสูง ธุรกิจที่ต้องการทำ SEO สามารถเข้ามาปรึกษาเราได้เลย ที่นี่

ใครพร้อมแล้ว ก็ไปลุยกันเลย!

Keyword Density คืออะไร?

Keyword density คือจำนวนครั้งที่ถูกใช้ในเนื้อหาของหน้าเพจหนึ่ง ปกติแล้วจะแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ ข้อดีของเจ้าสิ่งนี้คือ มันจะช่วยให้ Search Engine และผู้เข้าชมเข้าใจว่าหน้าเพจนี้เกี่ยวข้องกับอะไร 

ทีนี้ ถ้าคุณจะแรงก์หน้าเพจด้วยคีย์เวิร์ดคำไหน คุณก็จะเขียนคอนเทนต์ โดยคำนึกถึงหลักการนี้ไปด้วย 

กฎหลักที่ต้องรู้คือ หน้าเพจหนึ่งจะต้องมีคีย์เวิร์ดที่ใช้แรงก์เพียงคำเดียวเท่านั้น ส่วนคำอื่น ๆ ก็จะทำหน้าที่เป็นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องไป ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้ผู้อ่านและ Search Engine เข้าใจภาพรวมของหัวข้อในหน้าเพจนั้นได้ดียิ่งขึ้น 

หนึ่งเรื่องที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ อย่าใช้คีย์เวิร์ดอย่างเดียว เพราะมันทำให้จำนวนคำของทั้งหน้านั้นมีน้อยจนกลายเป็น Thin Content หรือหน้าเพจที่ไห้เนื้อหาน้อย บอกเลยว่า SERPs ไม่ปลื้มแน่ ๆ 

Keyword Density คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับ SEO (1)

Keyword Stuffing คืออะไร?

หากเป็นเมื่อช่วงแรก ๆ ที่ SEO กำลังมา การใช้คีย์เวิร์ดคำหนึ่งหลาย ๆ ครั้งในเนื้อหาจะช่วยไต่อันดับได้ดีมาก ยิ่งเยอะยิ่งได้อับดับดี

ฟังเหมือนดูดีใช่ไหม แต่ในความเป็นจริง มันง่ายเกินไป ง่ายจนทำให้เหล่าเว็บมาสเตอร์เริ่มใช้กลวิธีนี้หากิน เพื่อไต่อันดับใน SERPs ให้เว็บไซต์ของตัวเอง แทบจะไม่ต้องพยายามอะไรเลย เพียงใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการแรงก์ ไม่ต้องเขียนคอนเทนต์ให้สวยหรูหรือเขียนให้น่าอ่านเลย

แต่หลัง ๆ มานี้ กลวิธีนี้เขาเรียกกันว่า “Keyword Stuffing” หรือการยัดคีย์เวิร์ด พูดง่าย ๆ คือ การใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไปจนทำให้ผู้เข้าชมไม่สามารถอ่านได้ 

แล้วถ้าผู้ใช้งานอ่านไม่ได้ Google ก็คงไม่ต่างกัน แถมยังจะตัดสินว่าเว็บไซต์ที่ยัดคีย์เวิร์ดนี้ว่ากำลังดำเนินการแบบผิดปกติ และเริ่มลดอันดับใน SERPs ลง ทางที่ดีควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่บรรจุด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อ่านง่าย และมีคีย์เวิร์ดร่วมอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมอาจจะส่งผลได้ดีกว่า

Keyword Density สำคัญต่อกลยุทธ์ SEO อย่างไร?

กระบวนการการจัดอันดับและ Keyword Density ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หลังจากที่ Google รู้ทันกลวิธีการยัดคีย์เวิร์ด หรือ keyword stuffing ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมใหม่ให้ฉลาดขึ้น การทำ SEO ให้ได้ผลอาจจะต้องอาศัยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ให้ความรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมได้ มากกว่าที่จะเน้นการใส่คีย์เวิร์ดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในบทความหรือบล็อกโพสต์เหมือนสมัยเมื่อก่อน 

แต่ก็ใช่ว่า Keyword Density จะไม่สำคัญ เพราะมันยังคงสำคัญและมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด!!

เมื่อใดก็ตามที่ Google หรือ Search Engine อื่น ๆ มองมาที่คอนเทนต์บนเว็บไซต์ มันไม่ได้กำลังอ่านแค่คำต่าง ๆ ในหน้าเพจนั้นแค่นั้นแล้วจบ แต่มันยังจะสแกนต้นฉบับ เพื่อค้นหาคำที่โดดเด่นในหน้านั้น ๆ มากที่สุดด้วย ส่วนคำเล็ก ๆ ที่พบได้ทั่วไปก็จะถูกมองข้ามไป  

ถ้าคุณทำ Keyword Research และเขียนเนื้อหาด้วยคีย์เวิร์ดเหล่านั้น คุณควรมีคีย์เวิร์ดที่ทำหน้าที่เป็นคำหลักที่มีเปอร์เซ็นต์การถูกใช้ในเนื้อหามากที่สุด สิ่งนี้เรียกว่า “keyword density”

ยิ่งคีย์เวิร์ดนั้นถูกใช้สูงเท่าใด โอกาสที่ทั้งหน้าจะมีความเกี่ยวกับหัวข้อนั้นก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้น การให้ความสำคัญไปที่ keyword density จึงยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณอยากทำ SEO ให้สำเร็จ แต่ก็ต้องรู้ไว้ด้วยว่าเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะต้องมีบริบทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ต้องมีความพอเหมาะพอดี ไม่ใช่สักแต่ว่าจะยัดคีย์เวิร์ดเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

คุณไต่อันดับแค่คีย์เวิร์ดที่ต้องการไหม? 

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องจดเลยคือ ต้องใส่ใจกับคีย์เวิร์ดที่ต้องการจะแรงก์ และคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ตระหนักเสมอว่าเราจะแรงก์หน้าเพจด้วยคำพวกนี้

แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะได้ผล เพราะในบางครั้งหน้าเพจนั้นอาจแรงก์ด้วยคีย์เวิร์ดที่คุณไม่ได้ตั้งใจให้แรงก์บน SERPs ด้วยซ้ำ หรือแม้แต่ในบางครั้งก็ไปแรงก์ในคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องแทน 

อย่างที่พูดไปตั้งแต่แรก Google จะมองคำต่าง ๆ บนหน้าเพจนั้น ๆ ในฐานะบริบทเดียวกัน จากนั้นก็จะแบ่งแต่ละคำตามจำนวนที่ปรากฎในหน้านั้น ซึ่งก็หมายความว่า มันเป็นไปได้ที่คุณจะแรงก์ด้วยคีย์เวิร์ดที่คุณไม่อยากจะแรงก์ แต่ก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับบริบทและหัวข้อหลักอยู่ และก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะคุณจะสามารถแรงก์หน้าเว็บนั้นได้หลายช่องทางด้วยเนื้อหาเพียงหน้าเพจเดียว

Keyword Density คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับ SEO ''

Keyword Density คำณวนยังไง? 

สูตรการคำณวน Keyword Density ไม่ได้ซับซ้อน เพียงนำเอาจำนวนครั้งที่คีย์เวิร์ดที่ต้องการแรงก์มาหารด้วยจำนวนคำทั้งหมดในเนื้อหานั้น ๆ 

ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าคุณมีคีย์เวิร์ดหลักไป 10 ครั้งในบทความหนึ่งที่มีจำนวนคำทั้งหมด 1,000 คำ Keyword Density ก็จะอยู่ที่ 1% (10 / 1.000 = 0.01 = 1%)

คำถามต่อมาคือ แล้ว Keyword Density ที่ดีควรอยู่ประมาณเท่าไหร่ นักการตลาดบางคนมองว่า 1% ถือเป็นจำนวนที่ดีแล้ว แต่หลายคนก็ออกมาแย้งว่าควรมากกว่า 4% ถึงจะดี 

แต่คำตอบที่แท้จริงมันขึ้นอยู่กับความยาวของบทความหรือโพสต์นั้น ๆ ต่างหาก 

จะเห็นได้ชัดว่า ถ้า Keyword Density อยู่ที่ 4% บนบทความที่มีความยาว 1,500 คำ การกระจายคำมันก็อาจจะเป็นธรรมชาติกว่าเมื่อเทียบกับบทความ 150 คำ

อยากให้คำนึงถึงความเป็นธรรมชาติของบทความก่อน จากนั้นค่อยมากำหนดการใช้คีย์เวิร์ดว่าจะทำยังให้ใส่เข้าได้ตลอดทั้งเนื้อหา

คีย์เวิร์ดใส่ที่ไหนถึงได้ผล

นอกจาก keyword density ของคีย์เวิร์ดโดยรวมแล้ว คุณยังต้องจับตาดูว่าคีย์เวิร์ดเหล่านั้นถูกใช้ตรงไหนด้วย จำนวนที่ถูกใช้สำคัญก็จริง แต่การนำไปใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยจุดที่จำเป็นต้องใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปก็จะมีดังนี้ 

  • Title

Title จะช่วยบอกทั้ง Search Engine และผู้ใช้งานว่าหน้าเพจนี้กำลังพูดถึงอะไร จึงไม่แปลกที่จะใส่คีย์เวิร์ดหลักของเราเข้าไป

จำไว้เลยว่าจุดนี้คือการโฆษณาขนาดย่อมบน SERPs การใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการจะแรงก์เข้าไปจึงสำคัญสุด ๆ 

  • Heading Tags

เอาให้ชัวร์ว่าคุณใส่คีย์เวิร์ดหลักเข้าไปใน H1 หรือ H2 แล้ว จุดนี้ห้ามลืมใส่เด็ดขาด 

  • Body Content

กระจายคีย์เวิร์ดหลักของคุณให้อยู่ทั่วในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติในจำนวนที่เหมาะสม ก็ช่วยให้การทำ SEO ได้ผลไปเกินครึ่งแล้ว 

ทำไมต้องเขียนเนื้อหาด้วย Keyword Variants และ Keyword Clustering 

แน่นอนว่า Search Engine ฉลาดมาก อย่างตัว Google เอง ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการอัปเดตอัลกอริทึมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสามารถของบอทกูเกิลจึงเพิ่มขึ้นมาก ๆ จนเราแทบตามไม่ทัน 

พูดง่าย ๆ ก็คือพวกเขาสามารถบอกได้ว่าคีย์เวิร์ด 2 คำที่เขียนต่าง ๆ มีความหมายเหมือนกัน 

ลองนึกเล่นว่า คีย์เวิร์ดหลักของคุณคือ “สายพันธ์ุสุนัข”

บอท Spider ของ Google จะรู้ว่าสามารถใช้ “ประเภทของสุนัข” และ “สายพันธุ์หมา” แทนได้ และยังมีคำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากที่นำมาเชื่อมโยงได้ 

ดังนั้น มันจึงสำคัญมากที่จะต้องรู้ไว้ว่าบางครั้งมันอาจจะดีต่อการทำ SEO กว่าหากใช้ keyword variants และ keyword clustering เข้ามาช่วยในการสร้างคอนเทนต์ 

แต่ keyword variants และ keyword clustering คืออะไรล่ะ??​ ขออธิบายง่าย ๆ ว่า แทนที่มุ่งไปแค่การใช้คีย์เวิร์ดเพียงคำเดียวในเนื้อหา ลองเพิ่มคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้ามาช่วยแรงก์ในหลากหลายช่องทางก็ถือเป็นวิธีที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แถมได้ผลดีด้วย 

ยิ่งถ้าคำเหล่านั้นมีความหมายเหมือนกัน มันจะยิ่งส่งผลดีต่อการสร้างยอดการชมให้เพิ่มสูงขึ้น และทำให้ง่ายต่อการบรรลุ search intent อีกด้วย 

Keyword clustering สามารถเป็นเรื่องง่าย ๆ และซับซ้อนได้ แล้วแต่ว่านักการตลาดต้องการแบบไหน  

แม้ทุกวันนี้จะมีเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาช่วยกำหนดคีย์เวิร์ด เพื่อจัดกลุ่มคำแล้วก็ตาม แต่บ่อยครั้งที่ความเข้าใจของหัวข้อนั้น ๆ อาจจะต้องพึ่งคำอื่น ๆ ที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายด้วย เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างถ่องแท้จริง ๆ 

Keyword Density คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับ SEO (2)

เลี่ยงการยัดคีย์เวิร์ด

การยัดคีเวิร์ดมีแต่จะทำให้แย่ลง วิธีนี้จะทำให้แรงก์ของคุณร่วงลงและกู่ไม่กลับด้วย หรือมองให้แง่ผู้ใช้งาน ก็คงไม่มีใครเข้าใจเนื้อหาที่มีแต่การยัดคีย์เวิร์ดนี้ได้ 

ดังนั้น ต้องเตือนตัวเองเสมอว่าให้เลี่ยงการยัดคีย์เวิร์ดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วหันมาใช้กลุ่มคีย์เวิร์ดที่มีความหมายเหมือนกันหรือสร้างตัวแปรใหม่ให้คีย์เวิร์ดนั้น ๆ กัน แต่ก็ต้องอย่าลืมว่ายิ่งใช้เยอะคำเหล่านี้ก็จะมี Density ของตัวเองในบทความ จึงต้องระวังเรื่องจำนวนครั้งที่ใส่ อย่าให้มากจนเกินคีย์เวิร์ดหลัก ใส่ได้อย่างพอดีและคำนึงเรื่องความสมดุลด้วยจะดีที่สุด

สรุปการใช้ Keyword Density ในกลยุทธ์ SEO 

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงรู้แล้วว่า Keyword Density ยังคงเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ SEO อยู่ ยิ่งทุกวันนี้การแข่งขันเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การใส่ใจเรื่องจำนวนการใช้คีย์เวิร์ดและวิธีการใช้ในส่วนต่าง ๆ ในบทความ จะช่วยให้การจัดอันดับของหน้าเพจนั้นดีขึ้นได้ และช่วยขยายโอกาสในการแรงก์ด้วย 

Share:

Author
Louis Potsavee

หลุยส์นักเขียนบทความที่สามารถเขียนบทความได้ทุกรูปแบบตามข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อให้เกิดบทความใหม่ ๆ ในรูปแบบที่ผู้คนสามารถเข้ามาอ่านได้ง่ายขึ้น เกี่ยวกับ Digital Marketing เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักการตลาดทุกคน