วิธีสร้างเว็บไซต์ ง่าย ๆ ด้วยตนเองด้วย WordPress 10 นาทีก็มีเว็บไซต์ได้ 

เดี๋ยวนี้ธุรกิจไหน ๆ ก็ต้องมีเว็บไซต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ แต่หากเราเป็นธุรกิจเปิดใหม่พึ่งเริ่มต้น ทุนก็น้อย จะจ้างทำเว็บไซต์ก็ไม่มีงบพอ ปัจจุบันมีหลาย ๆ เว็บไซต์สำเร็จรูป (Web Tempate ) ที่เปิดให้คุณสามารถเข้าไปสร้างเว็บของตนเองฟรี ๆ ได้ และ มีวิธีสร้างเว็บไซต์ ง่ายมาก ๆ โดยคุณไม่ต้องเขียนโค้ดในการทำหน้าเว็บไซต์เอง ซึ่งเราจะเรียกเว็บสำเร็จรูปเหล้านี้ว่า CMS (Content Management System) คือ ​​ระบบที่จะไปช่วยสร้างและบริหารเว็บไซต์สำเร็จรูป

สำหรับ CMS ที่มีประสิทธิภาพต่อการทำ SEO และง่ายต่อการปรับแต่งเว็บไซต์มากที่สุดคงหนีไม่พ้น WordPress วันนี้เราจะพาทุกคนไปค้นพบรายละเอียดทั้งหมดของวิธีสร้างเว็บไซต์โดยใช้ WordPress พร้อมด้วยเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่มคอนเวอร์ชันที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของคุณในบทความนี้กันเลย

ทำไมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จึงสร้างด้วย WordPress 

ก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความรู้จักกับ WordPress กันดีกว่าว่า ทำไมหลาย ๆ เว็บจึงถูกสร้างขึ้นด้วย WordPress โดยเฉพาะในเว็บไซต์ธุรกิจต่าง ๆ WordPress คือระบบการจัดการเนื้อหา (Content Management System, CMS) อย่างหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยภาษา PHP และมีการทำงานร่วมกับฐานข้อมูล MySQL ในการเก็บข้อมูล ที่ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้ามาสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้ง่าย ๆ และยังสามารถสร้างได้ฟรี ๆ อีกด้วยในฟีเจอร์พื้นฐานที่ใช้งานได้ 

หากคุณรู้สึกว่าการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก บอกเลยว่าหากคุณใช้งาน WordPress และพยายามเรียนรู้รูปแบบของ WordPress คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ของคุณเองให้ดูเป็นมืออาชีพได้ง่ายมาก ๆ โดยที่คุณไม่ต้องเขียนโค้ดให้ยุ่งยาก เพราะ WordPress ได้ออกแบบฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างหน้าเว็บไซต์ สร้างบล็อกโพสต่าง ๆ ด้วยรูปแบบสำเร็จรูป 

บริการเกี่ยวข้อง รับทำ SEO สายขาว ติดหน้าแรก

องค์ประกอบที่คุณควรรู้ในการสร้างเว็บไซต์

การสร้างเว็บไซต์ต้องมีองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างที่คุณจะต้องทำความเข้าใจและรู้จักมันให้ดี เพื่อให้เข้าใจในการสร้างเว็บไซต์กับ WordPress ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งองค์ประกอบที่เราจะอธิบายต่อไปนี้จะเป็นความรู้พื้นฐานของการสร้างเว็บไซต์ที่คุณจะต้องเจออย่างแน่นอน ต่อไปนี้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่คุณต้องมีในการสร้างเว็บไซต์บน WordPress

• โดเมน : ที่อยู่เฉพาะของเว็บไซต์ของคุณ เช่น .com, .net, .org, .edu, .gov, .th, ฯลฯ 
• โฮสติ้ง : บริการที่จัดเก็บเว็บไซต์ของคุณบนอินเทอร์เน็ต เป็นบริการที่ให้พื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์ (Server) เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลไฟล์เว็บไซต์ เช่น HTML, CSS, ข้อมูลฐานข้อมูล, รูปภาพ และไฟล์อื่นๆ ที่จำเป็นในการแสดงผลเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต
• WordPress : ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ช่วยให้คุณสร้างและจัดการเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
• ธีม : ธีมของ WordPress เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการเนื้อหา (Content Management System – CMS) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหน้าตาและการแสดงผลของเว็บไซต์หรือบล็อกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหรือโครงสร้างของเว็บไซต์เอง ธีมมีทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย
• ปลั๊กอิน: ปลั๊กอิน (Plugin) ใน WordPress เป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมเสริมที่ช่วยเพิ่มหรือขยายฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ WordPress ได้อย่างมากมาย ปลั๊กอินช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มคุณสมบัติหรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่ไม่มีในการติดตั้ง WordPress แบบพื้นฐาน 

วิธีสร้างเว็บไซต์ ด้วย WordPress แบบง่าย ๆ ด้วยตนเอง

คุณสามารถเข้าไปที่ wordpress.com เพื่อทำการลงทะเบียนและเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของตนเองโดยจะมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ทาง wordpress จะค่อย ๆ ให้คุณสามารถเข้าไปทำได้ง่าย ๆ ซึ่งเริ่มจากการเลือก ชื่อโดเมน ที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น ๆ โดยจะมี วิธีสร้างเว็บไซต์ ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนและซื้อชื่อโดเมน

ขั้นตอนแรกในการสร้างเว็บไซต์ WordPress ของคุณเองคือการลงทะเบียนและซื้อชื่อโดเมน อย่างที่เราบอกองค์ประกอบแรงที่คุณจะต้องมีในการสร้างเว็บไซต์ใหม่คือต้องมีโดเมนของตนเอง ทุกเว็บไซต์ต้องมีชื่อโดเมน ชื่อโดเมนของคุณคือข้อความที่แสดงถึงคุณโดยมักจะเป็นชื่อแบรนด์ ชื่อบริษัท ตัวอย่างเช่น ชื่อโดเมนของ Google คือ “www.google.com” เมื่อคุณพิมพ์ลงในเว็บเบราว์เซอร์ คอมพิวเตอร์ของคุณจะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google และดึงข้อมูลหน้าเว็บเพื่อแสดงให้คุณเห็น

และคุณจะต้องเลือกนามสกุลโดเมนเพื่อให้ได้ชื่อเว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบบ ซึ่งนามสกุลโดเมนมีหลายประเภทอย่างที่เราบอกไปไม่ว่าจะเป็น .com, .net, .org, .edu, .gov, .th, และอื่น ๆ ส่วนขยายโดเมนเป็นตัวระบุประเภทของเว็บไซต์ โดยปกติจะปรากฏที่ส่วนท้ายของชื่อโดเมน โดยเราจะเรียกว่า TLD หรือ Top-Level Domain ซึ่งในบางโดเมลอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม บางโดเมนอาจจะฟรี หรือบางโดมเมนอาจจะฟรีในปีแรก คุณสามารถเลือก TLD ที่ต้องการได้เลย

ขั้นตอนที่ 2: เลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อคุณสร้างเว็บไซต์ คุณต้องมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บไฟล์ รูปภาพ และสื่ออื่นๆ ทั้งหมด ทาง WordPress จะมีตัวเลือกของผู้ให้บริการโฮสติ้งมากมาย ผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ SiteGround, Cloudways, DreamHost, InMotion, BlueHost, HostGator และ Hostinger ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีและมีความเสถียร  

เมื่อคุณเลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจจะทำให้เว็บไซจ์ของคุณช้า และไม่เสถียร ส่งผลต่อคุณภาพเว็บไซต์ และการจัดอันดับบนเครื่องมือการค้นหาอีกด้วย ซึ่งมีผลต่อการทำ SEO นั้นเอง (เรียนรู้เพิ่มเติม 8 เหตุผลที่ SEO เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก )

ขั้นตอนที่ 3: จัดการหน้าเว็บไซต์ของคุณ

ก่อนที่คุณจะเข้าไปสู่ระบบหลังบ้านของเว็บไซต์ของคุณบน WordPress ทาง WordPress จะมีตัวอย่างในการสร้างสร้างบทความต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับการโพสต์บล็อกก่อน ซึ่งเราสามารถลองใส่ข้อความต่าง ๆ ลงไปและลองโพสต์ก่อนได้ ซึ่งหากคุณเข้าใจแล้ว ทาง WordPress จะนำคุณไปสู่ระบบหลังบ้าน โดยจะมีรูปแบบหน้าตาดังนี้

ขั้นตอนที่ 4 : ค้นหาและติดตั้งธีม WordPress

WordPress มีเทมเพลตเว็บไซต์ให้คุณสามารถเข้าไปเลือกได้มากมายที่มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน คุณสามาถเข้าไปที่ “ธีม” ในแถบเมนูด้านข้างเพื่อค้นหาเทมเพลตที่ตรงกับเว็บไซต์ที่คุณต้องการสร้างมากที่สุด เมื่อคุณพบธีมที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้ว หากคุณต้องการธีมที่เสียเงินให้ซื้อธีมนั้นแล้วดาวน์โหลดไฟล์ธีม นอกจากนี้คุณยังสามารถรับธีมฟรีจาก WordPress 

ขั้นตอนที่ 5 : ติดตั้งปลั๊กอิน

หลังจากติดตั้งธีมของคุณแล้ว ต่อไปคุณจะต้องติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอินที่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งจะช่วยขยายฟังก์ชันการทำงานของ WordPress นอกจากปลั๊กอินที่มาพร้อมกับธีมของคุณแล้ว ยังมีปลั๊กอินให้เลือกนับพันซึ่งสามารถทำอะไรก็ได้ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยของเว็บไซต์ไปจนถึงการเพิ่มแชทสดหรือเปลี่ยนเครื่องมือแก้ไขเพจของคุณเป็นตัวแก้ไขแบบลากและวาง ซึ่งปลั๊กอินต่าง ๆ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเช่น 

• Yoast SEO: ปลั๊กอินนี้ช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพโพสต์ของคุณสำหรับเครื่องมือค้นหา
• Google Analytics: ติดตามการเข้าชมและกิจกรรมเว็บไซต์ของคุณ 
• Jetpack: ปลั๊กอินนี้มอบการรักษาความปลอดภัย การบำรุงรักษา และการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
• Akismet: ปกป้องไซต์ของคุณจากความคิดเห็นที่เป็นสแปมในโพสต์บล็อกของคุณ
• Elementor: ใช้ปลั๊กอินตัวสร้างเพจ เช่น Elementor เพื่อแปลงตัวแก้ไขเพจของคุณให้เป็นตัวแก้ไขแบบลากและวางที่เป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นมากขึ้น

อย่างไรก็ตามพยายามจำกัดจำนวนปลั๊กอินที่คุณใช้ เนื่องจากหากมากเกินไปอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณทำงานช้าลงหรือทำให้ปลั๊กอินอื่น ๆ เสียหายได้

บทความที่เกี่ยวข้อง Google analytics 

ขั้นตอนที่ 6 : กำหนดการตั้งค่า WordPress

ก่อนที่คุณจะเริ่มปรับแต่งหน้าเว็บและสร้างเนื้อหาไซต์ คุณต้องกำหนดการตั้งค่าของคุณ เช่น การระบุหน้าแรกและหน้าบล็อกโพสต์ของคุณ ตลอดจนการอัปเดตชื่อไซต์ สโลแกน และไอคอนไซต์ของคุณ ต่อไปนี้เป็นวิธีกำหนดการตั้งค่าที่คุณควรทำมากที่สุด

• โลโก้: ไปที่ “รูปลักษณ์” > “ปรับแต่ง” > “เอกลักษณ์ของไซต์ > “เปลี่ยนโลโก้” > อัปโหลดโลโก้ของคุณ
• ชื่อไซต์: ไปที่ “รูปลักษณ์” > “ปรับแต่ง” > “เอกลักษณ์ของไซต์ > ป้อนชื่อไซต์ (หรือชื่อธุรกิจของคุณ)
• สโลแกนของไซต์: ไปที่ “ลักษณะที่ปรากฏ” > “ปรับแต่ง” > “ข้อมูลประจำตัวของไซต์ > สโลแกนของไซต์อินพุต (หรือเพียงแค่ลบสโลแกน WordPress เริ่มต้น)
• ไอคอนไซต์: ไปที่ “รูปลักษณ์” > “ปรับแต่ง” > “เอกลักษณ์ของไซต์” > ใต้ “ไอคอนไซต์” คลิก “เปลี่ยนรูปภาพ” > อัปโหลดรูปภาพที่คุณต้องการแสดงเป็นไอคอนไซต์ของคุณ (a.k.a. favicon)
• หน้าแรก: ไปที่ “ลักษณะที่ปรากฏ” > “ปรับแต่ง” > “การตั้งค่าหน้าแรก” และเลือกหน้าเว็บที่คุณต้องการตั้งเป็นหน้าแรกของคุณ
• บล็อก: ไปที่ “ลักษณะที่ปรากฏ” > “ปรับแต่ง” > “การตั้งค่าหน้าแรก” และใต้ “หน้าโพสต์” ให้เลือกหน้าที่คุณต้องการตั้งเป็นบล็อกของคุณ
• การตั้งค่าลิงก์ถาวร: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ลิงก์ถาวร” จากนั้นเลือกโครงสร้างที่คุณต้องการ (โดยทั่วไปคือ “ชื่อโพสต์”) และบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ขั้นตอนที่ 7 : สร้างเพจต่าง ๆ 

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มสร้างหน้าเว็บของคุณซึ่งเป็นส่วนประกอบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ธุรกิจโดยเฉลี่ยมีจำนวนหน้าต่างๆ เช่น หน้าแรก บริการ ราคา เกี่ยวกับ และที่อยู่ติดต่อ ใน WordPress ทุกหน้าที่ไม่ใช่โพสต์ในบล็อก (หรือบทความ) จะถือเป็นหน้า ต่อไปนี้เป็นวิธีสร้างและ/หรือปรับแต่งหน้าใน WordPress หากต้องการสร้างเพจใหม่ คลิก “เพิ่มใหม่” หากต้องการปรับแต่งหน้าที่มีอยู่ ให้ไปที่ “ทุกหน้า” จากนั้นค้นหาหน้าจากรายการหน้า แล้วคลิก “แก้ไข” ได้เลย

ขั้นตอนที่ 8 : ตั้งค่าเมนูของคุณ

เมื่อคุณสร้างหน้าเพจต่าง ๆ ของคุณแล้ว ให้สร้างและกำหนดค่าเมนูของคุณ นี่คือวิธีที่ผู้เยี่ยมชมไปยังส่วนต่าง ๆ ของไซต์ของคุณ ดังนั้น คุณอาจมีเมนูมากกว่าหนึ่งเมนู เช่น เมนูที่ด้านบนของไซต์และอีกเมนูหนึ่งในส่วนท้าย) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธีมของคุณที่คุณเลือก ซึ่งการสร้างลิงก์ภายในให้สามารถคลิกไปยังหน้าต่าง ๆ ได้นั้นจะทำให้เว็บของคุณดูเป็นมืออาชีพมาก ๆ 

ขั้นตอนที่ 9 : เขียนโพสต์บล็อก

นอกจากหน้าเว็บแล้ว การเพิ่มบล็อกโพสต์เพื่อช่วยปรับปรุงโอกาสที่จะดึงดูดผู้คนมากมายในเครื่องมือค้นหา อย่าง Google หากต้องการเขียนโพสต์บนบล็อก ให้ไปที่ “โพสต์” จากเมนูแนวตั้งด้านซ้ายมือ แล้วคลิก “เพิ่มใหม่” จากนั้น คุณสามารถแก้ไขโพสต์บนบล็อกได้เหมือนกับที่คุณแก้ไขหน้าเว็บ ข้อแตกต่างประการหนึ่งก็คือ คุณสามารถเขียนบล็อกโพสต์แล้วกำหนดเวลาเผยแพร่ในภายหลังได้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง 7 วิธีเขียนบทความออนไลน์ ให้คนอยากอ่าน

สรุป วิธีสร้างเว็บไซต์

WordPress เป็นแพลตฟอร์มในการทำเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีธุรกิจต่าง ๆ ใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์เพื่อโปรโมทแบรนด์ของตนเอง และใช้ในการทำ Google Ads นั้นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งใน Digital Marketing ที่มีคุณภาพมาก ๆ วิธีสร้างเว็บไซต์ ที่สร้างโดย WordPress ใช้เพื่อสร้างเว็บไซต์ บล็อก พอร์ทัลที่ซับซ้อน เว็บไซต์ธุรกิจ ทั้งหมดนี้มีตัวเลือกการปรับแต่งและความยืดหยุ่นอย่างมาก 

ซอฟต์แวร์ของ WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สฟรี ทำให้เป็นความฝันของนักเขียนโค้ด WordPress ยังได้รับการสนับสนุนจากชุมชนนักพัฒนาและผู้ใช้จำนวนมากที่มักจะสร้างปลั๊กอิน วิดเจ็ต ธีม และสินค้าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์อยู่เสมอ 

สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ แต่ไม่อยากเข้าไปสร้างด้วยตนเอง และต้องการให้เว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือสามารถเข้ามาใช้บริการ รับทำเว็บไซต์ WordPress กับเราได้เลย ถึงแม้ว่า WordPress จะเปิดให้เข้าไปสร้างเว็บไซต์ได้ฟรี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างออกมาให้ประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามหลังการทำ SEO ที่ถูกต้อง สามารถเข้ามาสอบถามได้ที่ Asia Search Solution เป็น Digital Marketing Agency รับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร