No follow Link คืออะไร เพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ได้จริงหรือไม่

Louis Potsavee
January 11, 2024

สิ่งหนึ่งของคนที่ทำ SEO จะต้องรู้ คือ No follow Link ซึ่งเกี่ยวกับประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณในเครื่องมือค้นหา หากคุณต้องการมี SEO ที่ดีจริง ๆ คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Nofollow Link ซึ่งเราจะอธิบายเกี่ยวกับ Nofollow Link ว่าคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และวิธีการเช็กลิงก์ประเภทนี้

ทำความรู้จักกับ No follow Link คืออะไร

‘No follow Link’ คือลิงก์ที่ชี้จากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่งด้วยแท็ก rel= “nofollow” แท็ก HTML พิเศษนี้จะสั่งให้เครื่องมือค้นหาละเว้นลิงก์นั้น เมื่อเราบอกว่าไม่ต้องสนใจลิงก์นั้น นั่นหมายความว่าจะไม่มีการส่งลิงก์ (หรือ PageRank ) จากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง เนื่องจากลิงก์ ‘nofollow’ ไม่ผ่าน PageRank จึงไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา หรือหากพูดให้เข้าใจได้ง่าย ๆ การตั้งค่าบนไฮเปอร์ลิงก์ของหน้าเว็บที่สั่งเครื่องมือค้นหาไม่ให้ใช้ลิงก์นั้นในการคำนวณการจัดอันดับหน้า

หากถามว่าแล้วมันจะส่งผลดีต่อการทำ SEO หรือส่งผลเสียมากกว่ากัน อย่างที่เข้าใจ No follow Link เป็นการเชื่อม Backlink แบบไม่ส่งค่าคะแนนทาง SEO  โดย Nofollow Link ถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อต่อสู้กับ comment spamming ต่าง ๆ เท่านั้น

การทำ SEO ไม่จำเป็นต้องสนใจ Nofollow Link จริงหรือไม่ ?

อาจจะเป็นอะไรที่พูดยากว่า Nofollow Link  นั้นไม่มีความหมายกับการทำ SEO หรือการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์บนเครื่องมือการค้นหาเลยซะทีเดียว เพราะ Nofollow Link  ก็ยังมีผลต่อการคะแนนการจัดอันดับบนเครื่องมือการค้นหาอยู่ ถึงแม้จะให้คะแนนไม่มากเหมือนกับลิงก์ประเภทอื่น แต่ Nofollow Link ถือว่าเป็น Backlink ที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยทาง Google เองก็เคยแนะนำให้มีการลอง เปลี่ยน Tags เป็นแบบ rel=”nofollow” เช่นกัน

No follow Link

ความสำคัญของ Nofollow Link ในการทำ SEO

ถึงแม้ว่า Nofollow Link ในการจัดอันดับมากเท่าไหร่ แต่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Google ใช้ลิงก์เพื่อนำทางเว็บไซต์เพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือ ซึ่งในอดีตมีเว็บไซต์โจมตีเว็บไซต์อื่นด้วยลิงก์สแปมซึ่งบ่อนทำลายอำนาจของเว็บไซต์นั้น ๆ และลดอันดับใน SERP ลง ซึ่งหมายถึงการเข้าชมเว็บไซต์น้อยลง การใช้แท็ก nofollow ช่วยให้เว็บไซต์สามารถรักษาอันดับไว้ได้ แม้ว่าจะถูกโจมตีด้วยลิงก์สแปมก็ตาม

เรามักจะพบเห็น Nofollow Link สำหรับการติดแบนเนอร์ในตำแหน่งต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น header website หรือ Footer ซึ่งลิงก์ที่เราติดบนแบนเนอร์นั้นจะติดตามไปในทุก ๆ หน้าของเว็บไซต์นั้น ๆ ทำให้เราได้ ลิงก์ย้อนกลับตามจำนวนของหน้าเว็บไซต์ แน่นอนว่า Google อาจจะมองว่าลิงก์ที่ติดไปเป็นสแปม ทำให้นักทำ SEO จะใช้ rel=”nofollow” เข้ามาช่วยนั้นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง Search Intent คืออะไร?

Nofollow Link กับ Dofollow Link มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

ข้อแตกต่างทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวระหว่างทั้งสองคือลิงก์ nofollow มีแท็ก nofollow เท่านั้น แต่เมื่อพูดถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหาหรือการทำ SEO ลิงก์ nofollow และ dofollow มีความแตกต่างอย่างมาก เพราะเครื่องมือค้นหาจะให้คะแนนลิงก์ที่เป็น dofollow อย่างที่เราบอกไป เครื่องมือค้นหาจะไม่ให้คะแนนการจัดอันดับกับ nofollow หรือให้คะแนนน้อยมาก ๆ แต่ nofollow ก็มีความสำคัญในการทำ SEO ในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างที่เราได้อธิบายไปในข้างต้นแล้ว

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Do-Follow Link คืออะไร?

เมื่อไหร่ที่เราควรใช้ Nofollow Link

ในปัจจุบัน การทำ Nofollow Link จะมีอยู่ 2 กรณีที่ได้รับความนิยม นั้นคือ

  1. การทำ Nofollow Link กับการทำ Backlink ติดบนแบนเนอร์ตามเว็บต่าง ๆ อย่างที่เราได้อธิบายไปในหัวข้อความสำคัญของการทำ Nofollow Link ซึ่งจะช่วยป้องกันการดูเหมือนสแปมลิงก์ ของการทำ Backlink ติดบนแบนเนอร์ที่จะตามไปในทุก ๆ หน้าของเว็บไซต์นั้น ๆ นั่นเอง
  2. ลิงก์ระหว่างหน้าภายในเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า Internal Link ในการเชื่อมโยงลิงก์ไปยังหน้าเว็บที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ ในการจัดอันดับ เช่น หน้าติดต่อเรา หน้าลงทะเบียน เพื่อให้เครื่องมือการค้นหาไม่ต้องให้คะแนน

บริการจาก Asia Search รับทำ Backlink คุณภาพสูง

ประโยชน์ของการใช้ลิงก์ Nofollow Link

แม้ว่ามันอาจจะไม่เพิ่มอันดับของคุณใน SERP แต่แท็ก nofollow ยังคงสร้างการเข้าชมและสร้างการมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ได้ เพราะ  Nofollow Link เป็นการ Backlink ที่ผู้คนสามารถคลิกผ่านได้เช่นเดียวกัน และยังนำไปสู่ traffic ที่สูงขึ้นอีกด้วย การผสมผสานระหว่าง nofollow และ dofollow จะทำให้ Google มั่นใจว่าคุณเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

แถมยังเพิ่มภาพลักษณ์และการรับรู้แบรนด์ของเว็บไซต์ Backlink ยังคงช่วยคุณสร้างเครือข่ายผู้สนับสนุนได้ ยิ่งมีการมองเห็นแบรนด์ออนไลน์มากขึ้นเท่าใด การเข้าถึงและการเข้าชมก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้โซเชียลมีเดียอาจโพสต์ลิงก์จากบัญชีของตนซึ่งเพื่อนผู้ใช้ที่คลิกจาก Facebook หรือ Twitter จะเห็นได้ ทำให้ nofollow ถึงจะไม่มีคะแนนที่จะได้จากเครื่องมือการค้นหา แต่ก็ยังสามารถสร้าง traffic ให้กับเว็บไซต์ได้เช่นกัน

No follow Link

สรุป

Backlink เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการทำ SEO ทำให้จะต้องเข้าใจในลิงก์แต่ละแบบอย่าง Nofollow Link เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เราจะเจอได้บ่อย ๆ ในเว็บไซต์ที่มีการทำ Backlink  แนว Nofollow Link ซึ่งคุณสามารถนำความรู้ที่เราได้อธิบายไปทั้งหมดไปปรับใช้เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพเว็บไซต์ในการทำลิงก์ทั้งภายนอกภายในเว็บไซต์ได้ หากใครที่ต้องการทำ  SEO บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ของเราให้บริการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการค้นหาเป็นอย่างมาก

Share:

Author
Louis Potsavee

หลุยส์นักเขียนบทความที่สามารถเขียนบทความได้ทุกรูปแบบตามข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อให้เกิดบทความใหม่ ๆ ในรูปแบบที่ผู้คนสามารถเข้ามาอ่านได้ง่ายขึ้น เกี่ยวกับ Digital Marketing เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักการตลาดทุกคน