On-page SEO คืออะไร? เพิ่มประสิทธิภาพหน้าเพจให้ติดหน้าแรก

asiasearch
June 26, 2023

On-page SEO คืออะไร? On-page SEO คือการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาอย่างหนึ่งที่จะปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการอันดับบนหน้าการค้นหาที่เกี่ยวข้อง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในที่กำหนดเป้าหมายของเนื้อหาสำหรับเพจและซอร์สโค้ดเอาไว้ มีหนึ่งในวิธีการทำ SEO ที่มีตั้งแต่การสร้างเนื้อหา การแทรกคีย์เวิร์ด การปรับปรุงความเร็วของเพจ และอื่น ๆ ให้ติดอันดับหน้าแรกบน Google

On-page SEO คืออะไร?

On-page SEO คืออะไร?

On-page SEO เป็นวิธีปฏิบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพองค์ประกอบบนเว็บไซต์ เช่น ความเร็วของหน้าและความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด เทียบกับปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ เช่น ลิงก์ย้อนกลับภายนอก เพื่อปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์และการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา หรือช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับในหน้าแรกนั้นเอง

On-page SEO คืออะไร (1)

ทำไมต้องทำ On-page SEO มีความสำคัญอย่างไร ?

On-page SEO จะนำไปสู่อันดับการค้นหาที่สูงขึ้น เพิ่มการเข้าชมให้เว็บไซต์ และทำให้ Conversion มากขึ้นตามไปด้วย ผลลัพธ์ของ On-page SEO ต้องใช้เวลา แต่เมื่อกลยุทธ์ On-page SEO ของคุณเริ่มต้นขึ้น มันสามารถทำให้อันดับออนไลน์และยอดขายพุ่งสูงขึ้นได้จริงและยั่งยืน สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการทำ SEO เพื่อรองรับการค้นหาของกลุ่มลูกค้า สามารถปรึกษา ทีม ดิจิทัลเอเจนซี่ รับทำโฆษณาออนไลน์ ของเรา ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง รับทำ SEO สายขาว ให้ติดอันดับหน้าแรก

ส่วนประกอบของการทำ On-page SEO

 On-page SEO มีปัจจัยการจัดอันดับ on-page ที่แตกต่างกันหลายอย่าง ถ้าต้องการปรับปรุงปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดให้เหมาะสม เวลา คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพให้ปัจจัยเหล่านี้ และทำให้อันดับของคุณในหน้าการค้นหาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้  รวมถึงทำให้เว็บไซต์แข่งขันได้มากขึ้นและเอาชนะได้ยากด้วย ปัจจัยการเพิ่มประสิทธิภาพ On-page ที่คุณควรให้ความสำคัญ ได้แก่

  • URL
  • Title tag
  • Meta Descriptiom
  • Heading tag
  • Alt Tag
  • คีย์เวิร์ด
  • เนื้อหา
  • ความเร็ว
  • Internal Link
  • รูปภาพ
  • Mobile-friendly
ส่วนประกอบของการทำ On-page SEO

การทำงานของ Search Engine ต่อการปรับแต่ง On-page SEO

การทำงานของ Search Engine นั้นจะมีอัลกอริทึมในการตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ทุกเว็บ เมื่อคุณมีการปรับแต่งหรือปรับปรุงการทำ On-page ให้ดีขึ้น ซึ่ง Search Engine มีอยู่ 3 กระบวนการ เพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ของเราดังนี้

Crawling

Search Engine จะมี Bot ที่ใช้ในการเข้าไปสำรวจและเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต หาเรามีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพจะทำให้ Bot ของ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ดีขึ้น

Indexing

เมื่อ Search Engine รวบรวมข้อมูล จะทำการจัดทำดัชนี (Index) โดยการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การปรับปรุงเว็บไซต์ที่ถูกต้อง จะทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาและจัดทำดัชนีได้อย่างถูกต้องเช่นกัน

Ranking

Search Engine จะใช้เกณฑ์และอัลกอริทึมในการคัดสรรเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพเป็นตามเกณฑ์เช่น การใช้คีย์เวิร์ด โครงสร้าง URL และอื่น ๆ มากมายจะจัดเว็บของคุณขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง Search Engine ทำงานอย่างไร ?

ประโยชน์ของการปรับปรุงการทำ On-page SEO

การปรับแต่งปรับปรุงในการทำ On-page SEO ถือเป็นส่วนหนึ่งในวิธีการทำ SEO ที่สำคัญมาก มีความสำคัญต่อเครื่องมือการค้นหา สำหรับการทำ On-page SEO มีผลต่อการทำ SEO ดังนี้

  • จัดอันดับดีขึ้นในหน้าการค้นหาช่วยให้ search engine ปรากฏในตำแหน่งที่สูงขึ้นในหน้าการค้นหาของ Google เพิ่มการมองเห็นและการเข้าชมเว็บไซต์
  • เพิ่มปริมาณการเข้าชมที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการค้นหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการจริง ๆ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ
  • ผู้ชมได้รับประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น การปรับแต่ง On-page โดยเฉพาะหน้าเว็บไซต์ หน้าเพจต่าง ๆ จะต้องทำให้ดูสวยงามขึ้น น่าอ่าน รวมถึง โครงสร้างเว็บไซต์ ความเร็วในการโหลด และความสะดวกในการใช้งาน
  • เพิ่มอัตราการคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามากขึ้นบนหน้าการค้นหาของ Google หากมีการปรับปรุง title tags และ meta descriptions ให้น่าสนใจ
  • การใช้โครงสร้าง HTML ที่ถูกต้องและการใส่คำอธิบาย (alt text) สำหรับรูปภาพ ช่วยให้เว็บไซต์เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้งานมีความต้องการ
  • ปรับปรุงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและการเชื่อมโยงลิงก์ภายใน (internal linking) ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เนื้อหามีความเกี่ยวข้องและมีโครงสร้างที่ดี ทำให้ผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจและนำทางได้ง่าย
On-page SEO

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการทำ On-page SEO

On-page SEO คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้เป็นไปตามการทำงานของ Search Engine แต่การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ต้องใช้เวลาพอสมควร เทคนิค on page seo สิ่งที่จะช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่สามารถทนต่อการอัปเดตอัลกอริทึมได้ไม่ว่าจะอัปเดตกี่ครั้งก็ตาม

URL 

URL คือเป็นเหมือนที่อยู่ของเว็บไซต์ แต่สำหรับหน้าบนอินเทอร์เน็ต URL สำหรับหน้าเว็บไซต์ควรมีคำอธิบายสั้น ๆ และต้องเกี่ยวกับหัวข้อหลักของหน้าเพจด้วย การใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปใน URL แทนการใส่ตัวเลขที่สับสนยาว ๆ จะช่วยทำให้ไซต์ไปยังส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และทำให้ผู้ใช้มีอุ่นใจเมื่อเข้ามาใช้งานหรือเยี่ยมชมเว็บไซต์

แนะนำให้ใช้ URL ที่สะอาดและเป็นระเบียบ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์และช่วยให้คุณอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหาเกี่ยวข้องอีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ย่อลิงก์ ย่อ URL ให้สั้นลง

URL

Title tag

Title tag คืออะไร? คือข้อความที่จะปรากฏในผลการค้นหาและแท็บเบราว์เซอร์ เพื่อแสดงเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERPs) อย่างของ Google ต้องรู้ว่าหน้าเกี่ยวกับอะไร การใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะใน Title tag ของแต่ละหน้า (<title>, </title>) ช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น

Title Tags

Meta description

Meta description คืออะไร  Meta description คือข้อมูลสรุปของหน้าเพจและจะปรากฏใน SERP Meta description ไม่ได้ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าเพจโดยตรง แต่จะส่งผลต่อ SERPs ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเกี่ยวกับหน้าเพจเว็บไซต์ที่จะคลิกเข้าไปได้มากยิ่งขึ้น จะเห็นว่าเวลาที่ Google จะแสดงคีย์เวิร์ดหลักของผู้ค้นหาเป็นตัวหนาใน Meta description ก็ถือเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพคำอธิบายเมตาสำหรับการทำ SEO

Meta Description

ดังนั้นอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดเกี่ยวข้องใน Meta description ทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

Heading tag

Heading tag คืออะไร ? คือการเรื่องแบ่งเนื้อหาด้วย H1 , H2, H3 และ H4 เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจความสำคัญของเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น และสร้างความเข้าใจโครงสร้างของเนื้อหา ถ้าอยากปรับปรุง Heading tag ให้เข้าตา Search Engine และผู้ใช้งาน ควรใช้ Heading tag ในเนื้อหาเพื่อแบ่งเนื้อหาและทำให้อ่านง่ายขึ้น แนะนำให้เพิ่มคีย์เวิร์ดหลักหรือคีย์เวิร์ดเกี่ยวข้องเข้าไปด้วย เพื่อจะให้ Search Engine เข้าใจบริบทเพิ่มเติมสำหรับหน้าเว็บนั้น ๆ

Heading tag

เมื่อเขียน Heading tags แล้ว อย่าลืมกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดในแท็ก H1 ด้วย สำคัญมาก!!

Alt Text

Alt Text คืออะไร? คือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับมัลติมีเดีย เช่น รูปภาพและวิดีโอ ซึ่ง Search Engine อ่านมัลติมีเดียไม่เป็น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ Alt Text เพื่อบอกว่ามัลติมีเดียคืออะไร เกี่ยวกับอะไร หรือเกี่ยวข้องกับอะไร อย่างเช่น หากคุณใส่รูปแอปเปิ้ลลงไปในบทความ จะต้องมีการใส่ Alt Text เช่น “แอปเปิ้ลสีแดง” เพื่อให้ Google เข้าใจสื่อมัลติมีเดียได้ดียิ่งขึ้น จะทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้สำหรับทุกคนที่เรียกเข้ามาดูเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี

Alt Text

Keyword

Keyword คืออะไร? คือคำค้นหาหลักที่คุณใช้กำหนดเป้าหมายของหน้าเพจนั้น ๆ การใช้ Keyword มีคนค้นหามากที่สุดให้แรงก์ตรงกับข้อความค้นหาผู้ใช้ค้นหา จะช่วยให้ Search Engine เข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้เร็วและแม่นยำขึ้น การใช้ Keyword ในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเยอะจนเกินไปบนหน้าเว็บช่วยให้ Google อ่านและจัดลำดับได้อย่างเหมาะสม แต่การใส Keyword เยอะเต็มไปหมดดูไม่เป็นธรรมชาติและจะถูกมองเป็นสแปม

คุณควรค้นคว้าและรวบรวม Keyword สำหรับแต่ละหน้าเว็บไซต์ ปัจจุบันมีเครื่องมือวิจัย Keyword มากมาย สามารถช่วยให้คุณเข้าใจคีย์เวิร์ดที่ผู้คนใช้ค้นหาเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการได้ แนะนำให้ดูตัวชี้วัดต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น ปริมาณการค้นหารายเดือนและการแข่งขัน เพื่อพิจารณาว่าคีย์เวิร์ดใดจะให้คุณค่าแก่คุณมากที่สุด

Keyword Reseach

เนื้อหา

เนื้อหาคืออะไร ? เนื้อหาของคอนเทนต์คือข้อมูลที่ให้คำตอบของ Keyword แก่ผู้ใช้งานและ Search Engine ได้ เนื้อหามีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำ on-page มาก เพราะด้วยเนื้อหาของคอนเทนต์ สามารถให้ข้อมูลที่สร้างความเข้าใจยิ่งเป็นเนื้อหาที่ถูกต้องและน่าอ่าน การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสามารถช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจและจัดอันดับเนื้อหาของอยู่ในอันดับแรง ๆ ของ SERPs แน่นอน โดยสามารถสร้างเนื้อหาของคอนเทนต์ ได้ดังนี้

  • การใช้คีย์เวิร์ดคอนเทนต์ที่อยากทำในหัวข้อและย่อหน้า
  • แบ่งเนื้อหาคอนเทนต์ออกเป็นหัวข้อแบบอ่านง่าย ๆ 
  • เสริมคอนเทนต์เนื้อหาด้วยรูปภาพที่เป็นประโยชน์
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาคอนเทนต์ใช้การสะกดและไวยากรณ์ที่ถูกต้อง
  • ทำให้คอนเทนต์เนื้อหาน่าเชื่อถือและมีอำนาจ
Clearly define the content and format of the content.

Page speed 

Page speed คืออะไร ? คือตัววัดความเร็วในการโหลดเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ หากการโหลดหน้าเว็บไซต์ช้า ผู้ใช้ 50% จะออกจากหน้าเว็บทันที ถ้าเว็บนั้นใช้เวลาโหลดนานกว่าสามวินาที Search Engine เช่น Google ยังใช้ Page speed เป็นปัจจัยในการขึ้นอันดับอยู่ ดังนั้นคุณต้องเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วเพจ ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น และคุณสามารถอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในการค้นหาได้

คุณสามารถใช้ PageSpeed ​​Insights เพื่อตรวจสอบความเร็ว PageSpeed ​​​​Insights จะให้คำแนะนำสำหรับการเร่งความเร็วไซต์ คุณยังสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นได้เลย เช่น การบีบอัดรูปภาพ การกำจัดโค้ดเว็บไซต์ที่ไม่จำเป็น และอื่น ๆ

Internal linking 

Internal linking คืออะไร? คือการอธิบายการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ จากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง ที่อยู่ในโดเมนกัน การทำ On-page SEO การพัฒนากระบวนการเชื่อมโยงลิงก์ภายในก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นเป็นเพราะการเชื่อมโยงภายในจะช่วยให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลที่เข้ามาสำรวจไซต์ค้นพบเนื้อหาใหม่ ๆ และเข้าใจบริบทของหน้าต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันอยู่มากขึ้น และยังส่งผลโดยตรงต่อ Conversion ด้วยในท้ายที่สุด

ลองใช้ Internal link เพื่อปรับปรุงการทำ On-page SEO เช่น การเพิ่มลิงก์ไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและเนื้อหาที่มีอยู่แล้วในโพสต์ใหม่ และ การเพิ่มลิงก์จากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ไปยังหน้าใหม่ กลยุทธ์ Internal linking นี้จะช่วยให้เว็บของเรา ติดหน้าแรก ได้เร็วขึ้น

สามารถตรวจสอบสถานะของ Internal linking ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือฟรี เช่น Screaming Frog และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Anchor Text คืออะไร? และมีกี่ประเภท

Backlink

รูปภาพ

รูปภาพคืออะไร? รูปภาพเป็นสื่อมัลติมีเดียรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจและอ่านเนื้อหาได้ การเลือกรูปภาพให้ เหมาะสม รูปภาพมีความสำคัญต่อ SEO เพราะการมีรูปภาพจะทำให้เนื้อหาที่มีความสมบูรณ์ในการสร้างความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และยังสามารถระบุบริบทของรูปภาพ เพื่อให้ Search Engine เข้าใจอีกด้วย แต่ขนาดของรูปมีความสำคัญมากถ้าปล่อยให้รูปใหญ่เกินความจำเป็นก็จะส่งผลต่อ Page Speed ได้ และอีกข้อหนึ่งคืออย่าลืม Alt Text ลงไปในรูปด้วย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ สอนวิธี Optimize รูปภาพให้ SEO-Friendly

Optimize รูปภาพให้ SEO-Friendly

Mobile-friendliness

Mobile-friendliness คืออะไร? คือความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนเกี่ยวข้องกับ มือถือ หรือแท็บเล็ต การปรับให้เว็บไซต์เหมาะกับมือถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะมากกว่า 50% ของปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตมาจากมือถือ หากผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ อันดับในผลการค้นหาจะลดลง หากเว็บไซต์ไม่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์มือถือ บอกเลยว่าคุณกำลังพลาดโอกาสในการขายและรายได้อันมหาศาลไป

การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าเว็บเพื่อให้เหมาะกับมือถือมักเน้นไปที่การพัฒนาเว็บไซต์ที่ตอบสนอง ถ้าคุณมีเว็บไซต์เดียวก็จะง่ายต่อการอัปเดตเว็บไซต์ของคุณรวมถึงการเพิ่มเนื้อหาใหม่ เราสามารถใช้เครื่องมือทดสอบความเหมาะกับมือถือของ Google เพื่อตรวจสอบการตอบสนองของไซต์ของคุณได้แล้ว

On-page SEO คืออะไร (2)

วิธีประเมินการเพิ่มประสิทธิภาพ On-page ของคุณ

เมื่อคุณรู้แล้วว่า On-page SEO คืออะไร ทีนี้คุณก็จะสามารถประเมินประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณได้ มีเครื่องมือมากมาย ที่ช่วยตรวจสอบเว็บไซต์ได้ แถมยังดูหน้าเพจแยกต่างหากดได้อีก ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากคุณเลือกที่จะดูด้วยตนเอง ที่คุณสามารถใช้เกณฑ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพ on-page ได้เลย

  • คุณใช้คีย์เวิร์ดสำหรับทุกหน้าเพจหรือยัง คีย์เวิร์ดที่ใช้ดึงดูดผู้เข้าชมได้ไหม ถ้าไม่ลองเปลี่ยนคีย์เวิร์ดเป้าหมายดู
  • คุณมี internal linking ภายในเว็บไซต์บ้างหรือยัง วิธีนี้จะช่วยที่ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง และช่วยเพิ่มการใช้งานในเว็บไซต์อีกด้วย
  • เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วหรือไม่? มีหน้าไหนโหลดนาน ๆ หรือเปล่า ถ้ามีแสดงว่ามีปัญหาซุกซ่อนอยู่ในเว็บคุณอยู่ รีบหาและแก้ไขให้เร็วที่สุด ถ้าเว็บไซต์ที่โหลดช้าบอกเลยว่าผู้เข้าชมทั้งคนและบอทไม่ปลื้มแน่!
  • เว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาใหม่บ้างไหม? ไม่ได้อัปเดตนานแค่ไหนแล้ว? รีบสร้างเนื้อใหม่ ๆ และอัปเดตเว็บเร็ว จะได้ตามคู่แข่งได้ทัน 

อยากตรวจสอบ On-page SEO ของคู่แข่งต้องทำยังไง?

ถ้าเจอะคู่แข่งการทำ SEO เพราะพวกอาจทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างตัวเองในอุตสาหกรรมของคุณอยู่ และมั่นใจได้เลยว่าพวกเขากำลังใช้ On-page SEO เช่นเดียวกับคุณ ให้คุณลองดูเว็บไซต์ของพวกเขาและดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ แค่ตรวจสอบหน้าไม่กี่หน้าคุณก็อาจจะเห็นความแตกต่างของการทำ SEO ของคู่แข่งแล้ว

การตรวจดูคู่แข่งขันของคุณยังช่วยให้เห็นถึงสิ่งที่ควรปรับปรุงบนเว็บไซต์ของคุณเองด้วย ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพให้เข้ากับธุรกิจของคุณไปอีกแรง มาเริ่มพัฒนา On-page SEO ของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นตั้งแต่วันนี้ แล้วจับตาดูแนวโน้มที่ดีของอันดับเว็บไซต์ที่จะเริ่มไต่ขึ้น ๆ กับบริการรับทำ SEO รับประกันคุณภาพของเรา Asia Search Solution ได้เลย

On-page SEO

On-page SEO กับ Off-page SEO แตกต่างกันยังไง?

On-page SEO กับ Off-page SEO เป็นอะไรที่คุณจะพบได้บ่อยมากเมื่อพยายามเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ของคุณ

  • On-page SEO: หมายถึงการกระทำที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและการปรับปรุงการนำทางของคุณ เพื่อเพิ่มอันดับการค้นหาของคุณ
  • Off-page SEO: หมายถึงการกระทำที่เกิดขึ้นนอกเว็บไซต์ของคุณ เช่น การได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ เพื่อเพิ่มอันดับในการค้นหาของคุณ

การทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องการการผสมผสานที่ดีระหว่างการทำ On-page SEO และ Off-page ปรับแต่งอย่างเหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมทุกความสำเร็จ ในการทำ seo ยังต้องมีการปรับแต่งในหลาย ๆ ส่วนเพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการจัดอันดับของเครื่องมือการค้นหาให้มากที่สุด

สรุป

ในการทำ seo ด้วยการปรับแต่งเกี่ยวกับ On-page SEO ที่มีความสำคัญมาก ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์บนหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ดีที่สุด และยังสร้างความเข้าใจให้กับ Search Engine การบวนการพัฒนาทั้งหมดนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับติดหน้าแรกในการค้นหา

สำหรับใครที่กำลังอยากที่จะทำ SEO แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยทำ SEO สามารถเข้ามาปรึกษาและให้เรารับทำ SEO ครบวงจรที่นี่ เราเป็น บริษัทรับทำ SEO Agency ที่เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาให้เว็บไซต์คุณติดอันดับต้นๆ บน Google เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Share: